วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เรตติ้งละคร เรือนหอรอเฮี้ยน ช่อง3

ละคร เรือนหอรอเฮี้ยน


ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์ เวลา 20.30 น. เสาร์ อาทิตย์ เวลา 20.15 ช่อง 3
นำแสดงโดย : หลุยส์ สก๊อตต์, ซูซี่ สุษิรา, ปิ๊ป รวิชญ์, นนท์ ภูดิศ, โบว์ โชติมา, รอน ภัทรภณ, มะปราง วิรากานต์
กำกับการแสดงโดย : ตรัยยุทธ กิ่งภาภรณ์


ในปี พุทธศักราช 2453 หลวงบวรสงคราม (รวิชญ์ เทิดวงส์) ได้วางแผนกับชาวต่างชาติเพื่อยึดแผ่นดินไทยแต่ถูกจับได้จึงพาพวกหลบหนีโดยชิงตัว หม่อมเจ้ามาลา (สุษิรา แอนจิลีน่า) ท่านหญิงที่หลวงบวรสงครามเตรียมการแต่งงานไปด้วย หม่อมเจ้ามาลาหมดรักหลวงสงครามแล้วเพราะรู้ความจริงจึงฆ่าหลวงบวรสงครามและตนเองตายตามไป ปีพุทธศักราช 2553 คฤหาสน์จันทราสุสานร้างกลางเขาที่สิงสถิตย์ของหลวงบวรสงครามและสมุนทั้งสอง กระทิง        (นิธิชัย ยศอมรสุนทร)

รัตติกาลกับตะวันฉายได้รับการความช่วยเหลือจาก พัดชา (โชติมา    นวคุณากร) และ พิชญ์ (ภูดิศ สุริยวงศ์) เพื่อนสนิท กระทิงและกระทงพยายามทำร้ายรัตติกาลแต่ตะวันมาช่วยได้ทุกครั้ง ทำให้ความรักของเขายิ่งสุกงอมมากขึ้น คุณหญิงได้สั่งให้ตะวันแต่งงานกับ พิไลพร หรือ หนูดี (วิรากานต์ เสณีตันติกุล) ตะวันจึงหาโอกาสที่จะแต่งงานและจัดเตรียมเรือนหอ โดยให้ ตะวันรอน (ภัทรภณ โตอุ่น) ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องคอยขัดขวางหนูดี

ด้านหลวงบวรสงครามปลอมตัวเองเป็นมนุษย์ เพื่อเสนอภาพยนตร์ให้รัตติกาลเล่นเป็นนางเอกหวังจะเอาวิญญาณแต่ไม่สำเร็จ ในวันที่รัตติกาลแต่งงานกับตะวันฉาย กระทงได้ปลอมตัวเป็นคนเพื่อให้รัตติกาลดื่มยาพิษและนำวิญญาณไปพร้อมกับนำร่างไปซ่อนไว้ที่คฤหาสน์ หลวงบวรสงครามได้พยายามให้รัตติกาลระลึกชาติที่แล้ว ส่วนตะวันตั้งใจมากตามหารัตติกาลที่คฤหาสน์ แต่คุณหญิงภัทรา ผู้เป็นแม่ไม่ยอม และยื่นคำขาดให้เลือกระหว่างผู้หญิงที่ตายไปแล้วกับเรือนหอ ตะวันฉายจึงเลือกเรือนหอและยุติการค้นหาหวังว่าวันหนึ่งรัตติกาลจะกลับมาตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้ก่อนแต่งงาน
รัตติกาลรู้ว่าปิ่นปักผมของหม่อมมาลาเป็นอาวุธที่หลวงบวรสงครามหวั่นกลัวจึงขโมยและหนีออกมาอยู่ที่เรือนหอและพยายามทำให้ตะวันรู้ว่าตนอยู่ โดยการเข้าสิงพัดชาเพื่อเตือนตะวันให้ระวังหลวงบวรสงคราม พิชญ์เสนอให้ใช้ปิ่นปักผมของหม่อมมาลาจัดการกับหลวงบวรสงคราม ตะวันจึงไปตามหาร่างของรัตติกาลที่ป่าจันทรา ตะวันเกือบจะถูกหลวงบวรฆ่าตายรัตติกาลจึงตัดสินใจมาช่วยจนวิญญาณจะสลายต้องรีบกลับสู่ร่าง

รัตติกาลจะกลับเข้าสู้ร่างได้ทันเวลาหรือไม่ และจะได้แต่งงานกับ ตะวันฉาย หรือไม่ ต้องติดตามชม “เรือนหอ รอเฮี้ยน” และ กระทง (สุคนธวา   เกิดนิมิตร) ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดลงเพื่อดูการถ่ายทอดประกาศรางวัลดาวรุ่งดวงใหม่ และก็เฮสมดังคาดเมื่อ รัตติกาล (สุษิรา แอนจิลีน่า) นักแสดงสาวสวยดาวรุ่งได้ก้าวขึ้นรับรางวัลนักแสดงนำดีเด่นแห่งปี และ ตะวันฉาย (หลุยส์     สก๊อตต์) เป็นผู้ที่ได้หัวใจเธอไปครอบครองเพียงผู้เดียว ความรักของรัตติกาลกับตะวันฉายถูกกีดขวางจาก หาญกล้า (มนตรี เจนอักษร) พ่อของรัตติกาล และคุณหญิงภัทรา (ดวงตา ตุงคะมณี) แม่ของตะวันฉาย  

ที่มา ช่อง3

เรตติ้งเรือนหอรอเฮี้ยน
วันศุกร์ที่        6  พฤษภาคม 2554  เรตติ้ง  5.1
วันเสาร์ที่       7  พฤษภาคม  2554  เรตติ้ง  5.2
วันอาทิตย์ที่  8 พฤษภาคม  2554  เรตติ้ง  4.7

วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เรตติ้งละคร เสน่ห์บางกอก ช่อง7

ละครเสน่ห์บางกอก



ออกอากาศ
ละครก่อนข่าว จันทร์ - อาทิตย์ 18.45 น.

บทประพันธ์
อาจินต์ ปัญจพรรค์ / วิจิตร คุณาวุฒิ

บทโทรทัศน์
ระฆังเงิน

กำกับการแสดง"
พนม นพพร และ ชัยวุฒิ เทพวงษ์

ผู้ผลิต
นพพรโปรโมชั่น แอนด์ พิคเจอร์

รายชื่อนักแสดง

ชื่อ - นามสกุล                  รับบทเป็น
ศรัณย์ ศิริลักษณ์                                                 แพร
ป่านทอง บุญทอง สไบ
นัท ทิว ผึ่ง
ธันย์ชนก ฤทธินาคา      ลั่นทม
ภาณุ สุวรรณโณ      ก้าน
กวินตรา โพธิจักร    แก้วทิพย์
นนทพันธ์ ใจกันทา       ครูวิชัย
ฐิตินันท์ สุวรรถาวร    สายสุนีย์
ชวนภ โพธิ์ระเสริฐ      ชิด
สิริลภัส กอตระการ     ศศิมล
อติมา ธนเสนีวัฒน์     กิมลั้ง

เรื่องย่อ ละครเสน่ห์บางกอก

เสน่ห์บางกอก” มนต์ขลังแห่งมหานคร ที่ใครต่อใครต่างพากันใฝ่ฝันที่ได้มาสัมผัสชีวิตในเมืองกรุง บ้างก็พบกับความสำเร็จบ้างก็พบกับความล้มเหลวถูกหลอกลวง กรุงเทพฯเป็นทั้งสรวงสวรรค์และขุมนรกได้ในเวลาเดียวกันขึ้นอยู่ที่ใครจะเลือกเส้นทางเดิน แต่ไม่ว่าจะอย่างไร “บางกอก” ก็ยังคงมีมนต์เสน่ห์ชวนให้ใครๆเข้ามาสัมผัส...มิเสื่อมคลาย

บนเวทีคอนเสิร์ตยิ่งใหญ่ แก้วทิพย์ (กวินตรา โพธิจักร) นักร้องลูกทุ่งสาวดาวรุ่งมาแรงกำลังร้องเพลงอย่างสนุกสุดเหวี่ยง คนดูล้นหลาม หลังเวที แพร พนมพร (ศรัณย์ ศิริลักษณ์) นักร้องหน้าใหม่ และเพิ่งจะได้ขึ้นเวทีคอนเสิร์ตเป็นครั้งแรกเตรียมตัวจะขึ้นร้องเป็นคนต่อไป แพรตื่นเต้นมากจนเดินสะดุดพื้นเวทีล้มลง พร้อมกับเสียงปลุกของ ผึ่ง (ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม) เพื่อนรัก ที่แท้แพรกำลังฝันนั่นเอง เขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้ไปถึงฝัน เมื่อมีงานประกวดร้องเพลงที่หมู่บ้านข้างๆ แต่เหมือนฟ้าไม่เป็นใจไม่ทันที่แพรจะออกไปจากบ้าน กำนันปลั่งก็กลับมาเสียก่อน แพรจึงต้องออกอุบายว่าไม่สบาย แล้วเปลี่ยนตัวกับผึ่งเพื่อนรักของเขาให้มานอนคลุมโปงแทน ส่วนตัวแพรก็กระโดดหน้าต่างหนีไป ระหว่างทางที่เขาขี่รถมอเตอร์ไซค์เพื่อไปที่งานวัด รถของเขาก็เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวเข้ากับรถมอเตอร์ไซค์ของ สไบ (ป่านทอง บุญทอง) สาวจอมแก่นเซี้ยวห้าวราว เมื่อรถของแพรมาเฉี่ยวทำให้ข้าวของตกแตกเสียหายหมด สไบจึงโวยวายใส่แพร แต่ด้วยความรีบแพรไม่มีเวลาคุยจึงขี่รถจะไปงานวัดสไบจึงถีบแพรตกท้องร่อง ทำให้แพรเลอะโคลนเต็มตัว แพรโกรธสไบมาก สายสุนีย์ (ฐิตินันท์ สุวรรณการ) ลูกสาวเจ้าของโรงสีในหมู่บ้านขับรถกระบะผ่านมาพอดีจึงรับแพรขึ้นรถและพาไปส่ง สไบจึงไปฟ้องกำนันปลั่งที่บ้าน ทำให้กำนันรู้ว่าแพรไม่ได้นอนอยู่ในห้องแต่เป็นผึ่ง กำนันโกรธมากเมื่อรู้ว่าแพรหนีไปร้องเพลง แพรโกรธแค้นสไบมากที่มาทำลายโอกาสของเขา แพรจะไม่มีวันญาติดีกับสไบอย่างเด็ดขาด เมื่อไม่ได้ประกวดร้องเพลงที่งานวัด แพรจึงแกล้งทำเป็นไม่สนใจร้องเพลงและโกหกพ่อแม่ว่าสอบเอ็นต์ติดต้องใช้เงินลงทะเบียนถึงเงิน2แสน สไบแอบรู้เรื่องที่แพรโกหกนี้จึงบอกให้แพรพูดความจริง ถ้าแพรไม่พูดสไบจะพูดเอง กำนันปลั่งกับแม่ช้อยเข้ามาได้ยินพอดีความจึงแตก เมื่อกำนันกับแม่ช้อยรู้ความจริงว่าแพรไม่ได้เอ็นต์ติด จึงบังคับแพรให้แต่งงานกับสไบทันที

แม่ช้อยไปดูดวงให้แพรมาหมอดูบอกว่าแพรจะพ้นเคราะห์ได้และได้เป็นปลัดอำเภอสมใจก็ต้องบวชเสียก่อน กำนันจึงจัดงานบวชแพร และว่าจ้างวงดนตรีลูกทุ่งชื่อดังมาแสดงในงาน ซึ่งก็คือวงของแก้วทิพย์ นั่นเอง แก้วทิพย์มากับศักดิ์ชายผู้เป็นทั้งพ่อและผู้จัดการ แพรดีใจมากพยายามตีสนิทแก้วทิพย์ แพรจึงตัดสินใจหนีเข้ากรุงเทพพร้อมขบวนของวงลูกทุ่งแก้วทิพย์โดยขโมยพระสมเด็จของพ่อไปด้วยเพื่อเอาไปขายเอาเงินมาเป็นทุนในการทำเดโมเทปเสนอค่ายเพลง เมื่อมาถึงกรุงเทพ แพรมาขออยู่กับแก้วทิพย์แต่แก้วทิพย์ไม่อยากรับไว้เพราะสำหรับกรุงเทพแล้วแพรนับว่าบ้านนอกมาก แก้วทิพย์มีเสี่ยมาติดพันหลายคนจึงไม่อยากให้ใครเห็นว่าเธอคบหากับเด็กบ้านนอกอย่างแพร แต่ศักดิ์ชายเห็นพระสมเด็จของแพรก็อยากได้จึงยอมรับไว้ให้อยู่ด้วย แพรบอกศักดิ์ชายว่าถ้าอยากได้พระของเขาก็ต้องให้เขาเป็นนักร้องออกอัลบั้มก่อนเขาจึงจะยกพระให้ศักดิ์ชาย ศักดิ์ชายวางแผนปล้นพระจากแพร แต่ปรากฏว่า พระที่แพรขโมยมาเป็นของปลอมคนละองค์กับที่กำนันให้ศักดิ์ชายดู แพรจึงถูกซ้อมแล้วโยนทิ้งข้างถนน

เมื่อกำนันรู้ว่าแพรขโมยพระหนีมากรุงเทพก็เป็นห่วงมากชวนผึ่ง ลั่นทม แม่ช้อย ตาเอี่ยม เข้ากรุงเทพเพื่อตามหาแพรเมื่อแพรถูกซ้อมแล้วโยนออกมาจากบ้านแก้วทิพย์ ขณะที่แพรสะบักสะบอมนั้น ศศิมา (สิริลภัส กองตระการ) ก็มาพบเข้าจึงช่วยเหลือแพร พาแพรไปรักษาตัวที่บ้านเธอ ศศิมาเป็นนักร้องคาเฟ่และเป็นเมียน้อยของสมพลเสี่ยเจ้าของค่ายมวยซึ่งเมื่อเธอตั้งท้องสมพรรู้ก็ไล่เธอออกจากบ้าน แพรรู้เรื่องก็สงสารช่วยดูแลศศิมาอยู่ด้วยกันอย่างพี่น้องคอยพาไปฝากท้องและพาไปหาหมอ แพรออกหางานทำ ไปรับจ้างขับรถแท็กซี่ เจอคนจี้รถแท็กซี่ แต่โชคดีที่ชัยอดีตนักมวยชื่อดังมาช่วยไว้ได้ทัน ชัยจึงชวนแพรมาทำงานที่ค่ายมวยและเห็นแววของแพรที่จะเป็นนักมวยได้ ชัยแยกจากค่ายเดิมมาเปิดค่ายใหม่ของตัวเอง นักมวยตามชัยมาเยอะทำให้ สมพลเจ้าของค่ายเดิมไม่พอใจ ในวันขึ้นชกที่สนามมวย นักมวยของชัยถูกทำร้ายขึ้นชกไม่ได้ เหลือแค่แพรยังไม่พร้อมขึ้นชก แต่เมื่อได้เจอสไบที่มาดูมวยตามความชอบของเธอ สไบพูดยั่วแพรว่าไม่เป็นลูกผู้ชายไม่สู้คน ด่าว่าแพรต่างๆนาๆจนแพรโกรธฮึดสู้และเอาชนะได้ในที่สุด ทำให้แพรดังในชั่วพริบตา มีนักข่าวมาสัมภาษณ์ แพรบอกว่าเขาอยากเป็นนักร้อง กำนันและทุกคนที่มาด้วยเห็นแพรทางทีวีในรายการมวยจึงรีบไปหาที่สนามมวย ทั้งหมดจึงได้พบกันต่างดีใจ ทุกคนจึงย้ายไปอยู่ที่ค่ายมวยของชัย แต่ความดีใจของสไบก็ต้องชะงักเมื่อเห็นศศิมาที่กำลังท้องเข้ามาดูแลแพรราวกับเป็นเมียแพรสไบเข้าใจผิดว่าศศิมาเป็นเมียแพร ทำให้เกิดอาการงอนเศร้าอยากกลับศาลาเกวียน

เมื่อนักมวยของสมพลขอย้ายมาอยู่ค่ายของชัยเพิ่มมากขึ้นจากการที่แพรชนะ สมพลจึงยกพวกบุก
มาที่ค่ายของชัยและได้เจอศศิมาอยู่กับแพรจึงโกรธคิดว่าแพรเป็นชู้กับเมียน้อยตนเอง ศศิมาเสียใจต่อว่าสมพลเรื่องลูกในท้องทำให้ทุกคนรู้ความจริงว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของแพร สไบจึงยอมเข้าใจและไม่หนีกลับศาลาเกวียน ชัยสงสารศศิมา และแอบชอบศศิมาตั้งแต่แรก แต่เพราะคิดว่าเป็นเมียของแพรจึงไม่กล้าแสดงออก แต่ในเมื่อไม่ใช่ ชัยจึงแสดงความรักต่อศศิมาและขอดูแลเธอกับลูก เขาจะรับเป็นพ่อของเด็กเอง

ก้านหนีคดีเผาบ้านเบิ้ม ที่ศาลาเกวียนเข้ามากรุงเทพ ก็มาอยู่กับสมพล เป็นนักเลงหัวไม้ประจำค่ายมวย เมื่อเห็นแพรก็ตามมาเล่นงานแพรเพราะแค้นที่สไบหนีจากศาลาเกวียนมาตามหาแพร และได้รู้ว่า สมพลไม่ถูกกับชัย ก้านจึงคิดแผนชั่วทำร้ายทั้งแพรและชัย ตามความฝันของแพรคืนการเป็นนักร้อง สไบก็เห็นดีด้วยจึงเข้าไปสมัครเป็นคนรับใช้ในวงแดนเซอร์ คอยช่วยจัดชุดแดนเซอร์รับใช้คนในวงดนตรี ทำทุกอย่างเพื่อหวังจะใกล้ชิดกับการร้องเพลง วันหนึ่งเมื่อถึงเวลาแสดงดนตรี นักร้องคั่นเวลาที่ร้องอยู่มาไม่ได้ แพรจึงเสนอตัวร้องแทน เมื่อแพรร้องเพลงจบได้รับเสียงปรบมือจากคนดูอย่างที่ทุกคนคาดไม่ถึง แถมรับพวงมาลัยหน้าเวทีคล้องคอจนล้น สไบยืนดูอยู่หลังเวทีดีใจน้ำตาคลอคิดว่าฝันของแพรต้องเป็นจริงแน่ๆ หัวหน้าแดนเซอร์เข้ามาชื่นชมบอกแพรอย่าหยุดตัวเองแค่นี้หาหนทางเข้าไปสู่การเป็นดาวให้ได้ แพรจึงไปสมัครประกวดในรายการชุมทางเสียงทอง แต่ก็ตกรอบแรกซุ่มซ้อมกลับเข้าไปประกวดรายการชุมทางเสียงทองใหม่ได้รับรางวัลชนะเลิศ มีค่ายเพลงสนใจอยากออกเทปให้แพร กำนันคัดค้าน จะลากแพรกลับบ้านศาลาเกวียน แพรไม่ยอมกลับ เขาร้องให้กำนันเห็นแก่ความฝันของเขา ชีวิตนี้เขาอยากเป็นนักร้อง สไบเองก็ช่วยพูดกับกำนันให้ยอมใจอ่อน อนุญาติให้แพรได้เป็นนักร้อง กำนันจึงขอสัญญาแลกเปลี่ยนว่า หลังจากเป็นนักร้องแล้ว แพรกับสไบต้องแต่งงานกัน ทั้งสองยอมรับปาก

ความดังของแพรไปถึงหูแก้วทิพย์กับศักดิ์ชาย แก้วทิพย์จึงมาออดอ้อนแพรต่างๆนานาให้ยอมมาเป็นนักร้องในค่ายของเธอ และสร้างสถานการณ์ให้เกิดการเข้าใจผิดกับสไบและกำนัน จนแพรยอมยกเลิกสัญญากับค่ายเดิมไปอยู่กับแก้วทิพย์ สไบเสียใจมาก ตอนนี้แพรไม่เชื่อใครแล้วนอกจากแก้วทิพย์เพราะเธอทำให้แพรเป็นนักร้องดังได้มากกว่านี้เธอสัญญากับเขาว่า จะจัดคอนเสิร์ตใหญ่พร้อมกับเปิดอัลบั้มเพลงใหม่ที่จะส่งให้แพรดังสุดๆมันเป็นความฝันของแพร ศักดิ์ชายทำเพลงให้แพรอย่างจริงจัง เพื่อหลอกล่อให้แพรอยู่กับเขาและจะให้แพรแจ้งเกิดเป็นนักร้องลูกทุ่งระดับอินเตอร์ในคอนเสิร์ตครั้งนี้

ศักดิ์ชายขู่กำนันถ้าไม่เอาพระมาให้เขาจะทำลายความฝันของแพรล้มเลิกการแสดงคอนเสิร์ตซึ่งจะทำให้แพรเสียชื่อเสียง เพราะจากยอดขายบัตรล่วงหน้าหลายหมื่นใบแสดงว่าคนดูกำลังรอชมคอนเสิร์ตของแพร กำนันกลัวว่าแพรจะเสียชื่อเสียงจึงยอมเอาพระไปแลก สไบสงสารกำนันจึงแอบไปหาแพรเตือนสติให้แพรตาสว่าง แต่กลับถูกแพรด่าว่าสไบขัดขวางความฝันของเขาและไล่สไบกลับศาลาเกวียน สไบเสียใจมาก แก้วทิพย์รู้ว่าสไบมาหาแพรก็ไม่พอใจสั่งก้านสั่งสอนสไบโดยจับสไบมาข่มขืน ขณะที่แพรรอเวลาจะขึ้นคอนเสิร์ตเขาได้ยินแก้วทิพย์คุยกับก้านเรื่องให้ไปจับสไบ แพรตกใจจึงรีบออกจากหลังเวทีเพื่อที่จะไปช่วยสไบ ก้านกับพวกฉุดสไบมาที่โกดังร้างแพรกับชัยตามมาพบเกิดการต่อสู้กันแพรพลาดท่าถูกก้านแทง แต่ชัยช่วยแพรไว้ได้ก้านกับพวกถูกชัยอัดสะบักสะบอมหนีไปได้ แพรเขาปกปิดบาดแผลของตัวเองไว้แล้วขึ้นเวทีร้องเพลงบนเวทีคอนเสิร์ต เขาจนจบเพลงพร้อมกับร่างกายของเขาค่อยๆล้มลงกองบนเวที สไบตกใจรีบเข้ามาดูก็พบว่าแพรบาดเจ็บทุกคนจึงรีบนำแพรส่งโรงพยาบาล แก้วทิพย์และก้านถูกตำรวจจับข้อหาจ้างวานให้ทำร้ายสไบและทำร้ายร่างกายแพรจนบาดเจ็บสาหัส แพรต้องนอนโรงพยาบาลอยู่หลายวันโดยมีสไบคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

เมื่อเรื่องทุกอย่างคลี่คลาย แพรก็ได้รู้ความจริงว่าใครที่รักและหวังดีต่อเขาจริงๆ แพรตัดสินใจกลับศาลาเกวียนกับกำนันและสไบ เขาขอสไบแต่งงาน กำนันยอมไปง้องอนนายเบิ้มเพื่อขอสไบให้กับแพร นายเบิ้มกลั่นแกล้งกำนันต่างๆกำนันยอมทำตามนายเบิ้มทุกอย่าง จนนายเบิ้มใจอ่อนยอมยกโทษให้ และยกสไบให้แต่งงานกับแพร กำนันเมื่อหมดหวังที่จะมีลูกชายเป็นปลัดอำเภอ ก็หันมาทุ่มเทให้ลูกสะใภ้แทน กำนันส่งสไบไปเรียนมหาวิทยาลัยจนจบรัฐศาสตร์และกลายเป็นปลัดอำเภอหญิงคนแรกของศาลาเกวียนเป็นที่ภาคภูมิใจของทุกคน แพรกลายเป็นนักร้องลูกทุ่งชื่อดังที่ประกาศตนว่าแต่งงานแล้ว ไม่ว่าไปไหนเขาก็ต้องแนะนำให้ใครๆรู้จักว่าสไบเป็นเมียของเขาเสมอจนเป็นที่ชื่นชมของวงการ

จบบริบูรณ์

ที่มา http://www.ch7.com/

วันเสาร์ที่       23 เมษายน  2554  เรตติ้ง  8.9
วันอาทิตย์ที่   24  เมษายน  2554  เรตติ้ง 6.8

วันจันทร์ที่      25 เมษายน 2554    เรตติ้ง  11.2
วันอังคารที่     26 เมษายน  2554   เรตติ้ง  11.0
วันพุธที่           27 เมษายน   2554  เรตติ้ง  9.9
วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน  2554   เรตติ้ง 9.3
วันศุกร์ที่         29  เมษายน  2554  เรตติ้ง 8.7
วันเสาร์ที่       30 เมษายน  2554  เรตติ้ง  9.3
วันอาทิตย์ที่   1  พฤษภาคม 2554  เรตติ้ง 9.4

วันจันทร์ที่      2 พฤษภาคม 2554  เรตติ้ง  9.9
วันอังคารที่     3 พฤษภาคม 2554   เรตติ้ง  9.2
วันพุธที่           4 พฤษภาคม 2554  เรตติ้ง 11.4
วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม 2554  เรตติ้ง 10.5

เรตติ้งละคร ชื่นชีวานาวี ช่อง 3

ชื่นชีวานาวี



ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 18.30 น.
นำแสดงโดย : ตุ้ย เกียรติกมล ,หยาด หยาดทิพย์ , ก้อง สรวิชญ์, เบล มนัญญา
กำกับการแสดงโดย : ปกาสิต กิ่งศักดิ์


เรื่องสวีทวี๊ดวิ่วแต่โกลาหลยิ่งกว่าคลื่นลมทะเลของหนุ่มหล่อราชนาวีและยอดยาหยีลูกสาวแม่ทัพเรือ แต่อันว่าความรัก ไม่มีทั้งยศถาบรรดาศักดิ์และเงินทอง มีบ้างก็แง่งอนงอนพอชื่นใจ

พีชานิกา หรือ คุณหนู อี๊ด ( หยาดทิพย์ ราชปาล ) ของ แม่เจียม ( ปวันรัตน์      นาคสุริยะ ) ทวิตเตอร์ แถมผู้ที่จะมาเป็นว่าที่สามียังเป็นแค่ ลูกชายจ่านิล อดีตทหารรับใช้ในบ้าน ที่จริงแล้วลูกชาย จ่านิล   (รอง    เค้ามูลคดี) “สลิ่มมาลี” จึงหยิบเบอร์โทรที่เธอให้ไว้มาดูและรู้ว่าโดนเล่นงาน จึงกดโทรศัพท์ไล่ตั้งแต่ 00 จนถึง 99 จนเจอเบอร์ของพีชานิกาเข้าจนได้ที่ว่าก็ไม่ได้รูปชั่วตัวดำเป็นจรกาแต่ประการใด เพราะเขาเป็นถึง ผู้การนาวิน (เกียรติกมล ล่าทา) แห่งเรือศรีสยาม เรือรบหลวงที่ทันสมัยที่สุดของกองทัพเรือ แถมยังเป็นที่หมายปองของบรรดาสาวๆอย่าง โฉมฉิน (อภิษฎา   เครือคงคา) แม่ค้าปลาร้าหมัก และไฮโซซ้ออย่าง เอมอร (ธัณย์สิตา สุวัชราธนากิตติ์) ลูกสาวเจ้าของตลาดที่แต่งหน้าจัดจ้านเป็นชะนีหลงป่า แต่นาวินก็ไม่หมายปองผู้ใด จนแม่เลียบกับจ่านิลเป็นห่วงว่าลูกชายของตนจะเป็นเกย์ และกามเทพก็เล่นกลให้อลหม่าน เมื่อผู้ใหญ่ทั้งสองบ้านวางแผนปฏิบัติการคลุมถุงชนในวันเกิดของพีชานิกา พีชานิการู้แผนเข้าจึงซ้อนแผนด้วยการให้คนใช้ปลอมตัวเป็นคุณหนูกำมะลอส่วนเธอก็รีบสวมชุดสาวใช้แล้วกระโดดรั้วหนีไป ขณะที่ หมอเอกชัย (สรวิชญ์  สุบุญ)ได้ยินกิตติศัพท์ความงามของลูกสาวท่านผู้บัญชาการ จึงทำให้อยากเจอตัวเป็นๆซักครั้ง แต่แล้วหมอเอกชัยกลับเข้าใจผิดคิดว่า    พิไลเรขา (มนัญญา  ลิ่มเสถียร) เพื่อนสาวคนสนิทของพีชานิกาคือพีชานิกา หมอเอกชัยจึงขอพิไลเลขาเต้นรำด้วย เมื่อวินาทีสำคัญมาถึง พิธีกรประกาศให้พีชานิกาออกมาเต้นรำกับว่าที่คู่หมั้นก็เล่นเอาคุณหญิง ฉวีวรรณ (ดารัณ  ฐิตะกวิน) เป็นลมจำใส่เมื่อรู้ว่าลูกสาวตัวดีแปลงกายหนีออกไปจากงาน ขณะเดียวกันหมอเอกชัยหน้าเหว่อที่รู้ว่าพิไลขาไม่ใช่ลูกสาวของผู้บัญชาการธงรบ ทำให้พิไลเลขาหน้าแตกและไม่มีวันญาติดีกับหมอนี่เด็ดขาด นาวินขับรถออกจากงานโดยที่ไม่มีใครรู้เขาไปพบสาวน้อยนางหนึ่งถูกพวกเด็กแว้นท์ลวนลาม ไม่ใช่ใครที่ไหนพีชานิกานั้นเอง เขาจึงไปช่วยจนพวกจิ๊กโก๋เด็กแว้นท์หนีกระเจิง ทั้งคู่จึงตกหลุมรักกันในทันทีโดยที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร นาวินเข้าใจว่าพีชานิกาเป็นสาวภูธรที่หนีมาทำงานในกรุงเทพ พีชานิกาจึงหลอกว่าตัวเองชื่อ สลิ่มมาลี ทั้งสองนั่งปรับทุกข์ตามประสาคนหัวอกเดียวกัน นาวินบอกกับสลิ่มมาลีว่าเป็นหนุ่มโสดสนิท แต่ทันใดนั้นเอง เอมอรและโฉมฉินก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมแสดงความเป็นเจ้าของอย่างจริงจัง ทำให้พีชานิกาโกรธจัดที่ถูกฉีกหน้าอย่างแรงจึงวิ่งหนีแต่นาวินก็ไล่ตามจนพาขึ้นรถมาได้ นาวินขอเบอร์พีชานิกา แต่เธอจดให้แค่ 8 ตัว เพราะต้องการแก้เผ็ดเขา คืนนั้นทั้งคืน นาวินเฝ้าคิดถึงแต่กรี๊ดลั่นบ้านผู้บัญชาการธงรบ (ทูน หิรัญทรัพย์) เมื่อรู้ว่าตนถูกจับคลุมถึงคลุมในยุคเฟสบุ๊ค
เรตติ้ง ชื่นชีวานาวี

วันจันทร์ที่      18 เมษายน 2554    เรตติ้ง  7.3
วันอังคารที่     19 เมษายน  2554   เรตติ้ง  9.3
วันพุธที่           20 เมษายน   2554  เรตติ้ง 8.7
วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน  2554   เรตติ้ง 4.3
วันศุกร์ที่        22  เมษายน  2554  เรตติ้ง  7.3

วันจันทร์ที่      25 เมษายน 2554    เรตติ้ง  7.2
วันอังคารที่     26 เมษายน  2554   เรตติ้ง  7.0
วันพุธที่           27 เมษายน   2554  เรตติ้ง 8.7
วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน  2554   เรตติ้ง 7.2
วันศุกร์ที่         29  เมษายน  2554  เรตติ้ง 8.7

วันจันทร์ที่      2 พฤษภาคม 2554  เรตติ้ง  6.5
วันอังคารที่     3 พฤษภาคม 2554   เรตติ้ง  6.1
วันพุธที่           4 พฤษภาคม 2554  เรตติ้ง 6.0
วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม 2554  เรตติ้ง 6.7
                พีชานิกาต้องการแกล้งนาวินให้พาไปกินอาหารในโรงแรมหรูหวังแกล้งสั่งอาหารแพงให้นาวินอึ้ง แต่ทันใดนั้นเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อพ่อแม่ของทั้งคู่มากินอาหารที่โรงแรมนี้เช่นกันโดยไม่ได้นัดหมาย เรื่องมันจึงแตกดังโผล๊ะ!! ทำให้นาวินหาว่าพีชานิกาเป็นสาวน้อยมารยาร้อยเล่มเกวียน ทำให้เธอถึงกับปรี๊ดและทั้งสองก็ตั้งป้อมเป็นศัตรูกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
 
ที่มา ch3
 

เรตติ้งละคร เคหาสน์สีแดง ช่อง 3

วันศุกร์ที่        22 เมษายน 2554  เรตติ้ง  4.8
วันเสาร์ที่       23 เมษายน 2554  เรตติ้ง  5.0
วันอาทิตย์ที่  24  เมษายน  2554  เรตติ้ง  4.6

วันศุกร์ที่        29 เมษายน 2554  เรตติ้ง  5.4
วันเสาร์ที่       30 เมษายน 2554  เรตติ้ง  5.2
วันอาทิตย์ที่  1 พฤษภาคม  2554  เรตติ้ง  5.8

เรตติ้งละคร เพลิงพรหม ช่อง7

ละครเพลิงพรหม



ออกอากาศ
ละครหลังข่าว ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ 20.25 น.

บทประพันธ์
สาธิตา - ทรัพย์กุลธร

บทโทรทัศน์
ฐา-นวดี สถิตยุทธการ

กำกับการแสดง"
มารุต สาโรวาท

ผู้ผลิต
มาสเคอเรด จำกัด

รายชื่อนักแสดง


เรื่องย่อ ละครเพลิงพรหม


เมื่อ 25 ปีก่อน อินตรา ถูกทอดทิ้งจากมารดาผู้เป็นสาวใช้ในบ้านของ ไกรสร เจ้าของธุรกิจส่งออกระดับประเทศ ด้วยความสงสารไกรสรจึงรับอุปการะเด็กน้อยเอาไว้ในฐานะลูกสาวอีกคน หลังจากที่เขาเพิ่งจะสูญเสียภรรยาในขณะที่เธอคลอด มนชญา ลูกสาวที่เกิดวันเดียวกับอินตรา เพื่อหวังให้อินตราเป็นเพื่อนเล่นกับลูกสาวของตน

ไกรสรเลี้ยงดูอินตรากับมนชญาอย่างดีเหมือนกัน ให้การศึกษาที่ดีเท่ากัน แต่มนชญานั้นมีจิตใจที่อ่อนโยนและเป็นคนดีมาก ส่วนอินตรานั้นเป็นคนเจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจตัวเอง ทำให้อินตรา มีปัญหากับ กัลยาณี น้องสาวของไกรสรที่จงเกลียดจงชังเด็กนิสัยไม่ดีอย่างอินตราเข้าไส้อยู่เสมอ

มนชญาเป็นสาวเรียบร้อย เรียนเก่ง แตกต่างกับอินตราที่ชอบเอาแต่ใจตัวเองและเป็นนักท่องราตรีตัวยงและบ่อยครั้งที่มักจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับนักเที่ยวคนอื่นจนต้องขึ้นโรงพัก ไกรสรจะไปประกันตัวอินตราที่โรงพักด้วยตัวเอง แต่กัลยาณีห้ามเอาไว้ เพราะเธอไม่อยากให้ไกรสรเสียชื่อเสียงเหตุเพราะอินตรามากไปกว่านี้ ดังนั้นหน้าที่จัดการปัญหาต่างๆ ของอินตราจึงตกเป็นของ นพดล เลขาฯ ของไกรสรและเป็นเด็กที่ไกรสรอุปการะเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก แต่นพดลก็เต็มใจช่วยอินตรา เพราะเขาหลงรักเธอมานาน ถึงแม้ว่าอินตราจะชอบดูถูกความจนของเขาก็ตาม

อินตราไม่พอใจที่ไกรสรไม่ไปประกันตนด้วยตัวเอง เธอจึงกลับมาทะเลาะกับไกรสร แต่มนชญาก็ช่วยห้ามและพยายามไกล่เกลี่ยให้อินตรากับไกรสรเข้าใจกัน เพราะมนชญารักและปรารถนาดีอย่างจริงใจให้กับพี่สาวต่างสายเลือดมาก แต่อินตรากลับคิดว่ามนชญานั้นเสแสร้งเป็นคนดีเพื่อให้ทุกคนรัก รวมทั้งภูมินทร์ นักธุรกิจหนุ่มที่อินตราแอบหมายปองด้วย

ทั้งที่ภูมินทร์เป็นคู่รักของมนชญา และทั้งสองก็คบหาดูใจกันมานานหลายปี โดยมี ยุวดี สาวห้าวเพื่อนสนิทของมนชญาและเป็นน้องสาวของภูมินทร์ช่วยเป็นแม่สื่อ และความรักของมนชญาและภูมินทร์ก็เป็นไปด้วยดี เพราะทั้ง ดุสิต และ วารี พ่อแม่ของภูมินทร์ต่างรักและเอ็นดูมนชญามาก รวมทั้ง กุ๊กไก่ หลานสาวตัวน้อยของภูมินทร์ด้วย แตอินตราก็ยังคิดว่าที่ภูมินทร์และทุกคนในครอบครัวรักมนชญานั้นเป็นเพราะว่ามนชญาเป็นลูกสาวที่แท้จริงของไกรสร ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทส่งออกชื่อดัง ไม่ใช่กาฝากอย่างเธอ !

อินตราอิจฉาความรักของมนชญาและภูมินทร์ เธอจึงพยายามทำให้ทั้งสองเลิกกัน โดยใช้ กิ่งกาญจน์ เลขาฯ สาวสุดเปรี้ยวของภูมินทร์ที่ต้องการจะจับภูมินทร์เพื่อหวังความสบายในวันหน้า ทั้งที่รู้ว่าเขามีคนรักอยู่แล้วเป็นเครื่องมือ และแผนของอินตราก็เป็นไปด้วยดี มนชญาเข้าใจภูมินทร์ผิดและเสียใจมากจนถึงขั้นจะขอเลิก แต่ภูมินทร์ก็พยายามง้อและอธิบายความจริงทุกอย่างให้ฟัง โดยมียุวดีเป็นผู้ช่วย จนมนชญายอมฟังและกลับมาคืนดีกับภูมินทร์

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภูมินทร์ต้องการให้มนชญามั่นใจในตัวเขา เขาจึงขอหมั้นกับมนชญา ทำให้อินตราโกรธมาก เธอจึงตัดสินใจเข้าหาภูมินทร์แต่ทว่าภูมินทร์ปฏิเสธและบอกกับอินตราว่าเขาไม่เคยรักใครนอกจากมนชญา อินตราเสียหน้ามากที่อ่อยภูมินทร์ไม่สำเร็จ หนำซ้ำไกรสรยังยกตำแหน่งผู้บริหารให้มนชญา สร้างความไม่พอใจให้กับอินตรามาก เธอคิดว่าไกรสรลำเอียงไม่เคยคิดให้อะไรอินตราเลย ทั้งๆ ที่พ่อบุญธรรมพูดเสมอว่าเขารักอินตรากับมนชญาเท่ากัน อินตรากับไกรสรทะเลาะกันรุนแรง แล้วอินตราก็ผลักไกรสรตกบันได จนทำให้ไกรสรเป็นอัมพาตครึ่งตัว ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของกัลยาณี !

กัลยาณีไล่อินตราออกจากบ้าน โดยอ้างว่านี่เป็นคำสั่งของมนชญาซึ่งถือว่าเป็นเจ้าของบ้าน อินตราเลยออกไปอยู่คอนโดด้วยความคับแค้นใจน้องสาวนอกไส้ของเธอ ทั้งๆ ที่มนชญาไม่รู้เรื่องอะไรเลย

ป้านวล คนใช้ในบ้านซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าแท้ๆ ของอินตรารีบบอกมนชญาเรื่องที่กัลยาณีไล่หลานสาวของเธอออกจากบ้าน เพราะป้านวลรักอินตรามาก พอมนชญารู้เรื่องก็ทำให้มนชญาร้อนใจ นพดลช่วยอาสาออกตามหาอินตราให้แทน เพราะเขาเห็นใจที่มนชญาต้องคอยดูแลไกรสรและอีกใจเขาก็นึกเป็นห่วงอินตรามากด้วย แต่แล้วนพดลก็ตามหาอินตราไม่พบ

มนชญากลุ้มใจมากทั้งเรื่องไกรสรและเรื่องอินตรา ภูมินทร์สงสารคู่หมั้นสาวเขาจึงพาเธอไปทำบุญเพื่อความสบายใจเหมือนอย่างที่มนชญาชอบทำอยู่เป็นประจำ แล้วที่นั่นเขาและเธอก็ได้พบกับ แม่ชีจัน ที่เดินเข้ามาบอกกับมนชญาอย่างปริศนาว่าเธอกำลังพบกับหายนะบางอย่าง และยังสอนว่า “ความดีและจิตใจที่งดงาม เป็นสิ่งเดียวที่จะช่วยคุ้มครองภัยอันตรายใดๆ” แต่มนชญาไม่ได้สงสัยอะไรมากนัก เพราะเธอกำลังเป็นทุกข์เรื่องไกรสรและอินตราอยู่

ทางด้านอินตรานั่นก็กำลังคิดแผนร้ายทำลายมนชญาเพื่อแก้แค้น ด้วยการโทรบอกให้ มนชญามารับที่ต่างจังหวัด แต่ขอร้องให้มาคนเดียวและแกล้งบอกว่ามีเรื่องจะสารภาพกับมนชญา มนชญาหลงเชื่อและรีบออกไปหาอินตราทันที ซึ่งระหว่างนั้นนพดลติดประชุมด่วน เขาจึงโทรบอกให้ภูมินทร์ตามมนชญาไป

มนชญามาถึงที่นัดหมายแล้ววิ่งตามหาอินตราตามที่อินตราโทรบอก จนมาถึงบริเวณสะพานแห่งหนึ่ง แล้วทันใดนั้นรถของอินตราก็ขับมาด้วยความเร็วสูง พุ่งเข้าชนร่างของมนชญาอย่างจัง ร่างของมนชญากระเด็นตกน้ำไป ส่วนรถของอินตราเกิดเบรกแตกขึ้นมากะทันหัน ทำให้รถของเธอพุ่งลงน้ำจมหายไปเหมือนกัน !

ภูมินทร์ตามมาเห็นเหตุการณ์ที่อินตราขับรถชนมนชญาพอดี เขารีบกระโดดน้ำลงไปช่วยพาร่างที่หายใจรวยระรินของมนชญาส่งโรงพยาบาลทันที

เสี้ยววินาทีแห่งความเป็นความตายนั้น วิญญาณของมนชญาก็ไปปรากฏขึ้นต่อหน้าแม่ชีจัน มนชญาร้องไห้เสียใจที่ตัวเองตายแล้ว แต่แม่ชีจันบอกว่ายังไม่ถึงเวลาตายของมนชญา หากสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นมันเป็นพรหมลิขิตและโชคชะตาที่มนชญากับอินตราต้องเผชิญ

ขณะเดียวกันอินตราก็ฟื้นขึ้นมาในโรงพยาบาลและแปลกใจที่เห็นภูมินทร์เฝ้าข้างเตียงตนอยู่ไม่ห่าง และหญิงสาวก็ต้องตกใจที่พบว่าตัวเองอยู่ในร่างของมนชญา ! อินตรางงมากว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเธอเห็นท่าทีเป็นห่วงเป็นใยของภูมินทร์ที่มีให้เธอ และรู้ว่าอินตราน่าจะเสียชีวิตแล้วเพราะร่างของอินตราจมน้ำหายไป พบเพียงซากรถเท่านั้น อินตราก็เลยยินดีที่จะอยู่ในร่างของมนชญาต่อไป และพร้อมที่จะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นมนชญาเพื่อจะได้ครอบครองทุกอย่างที่เป็นของมนชญา โดยเฉพาะภูมินทร์

แต่ถึงแม้ว่าอินตราจะพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นมนชญามากเท่าไหร่ แต่สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไม่ได้นั้นคือ จิตใจที่มืดดำของอินตรา เธอจึงหลุดแสดงพฤติกรรมไม่ดีเดิมๆ ของตัวเองออกมาเสมอ ทำให้คนรอบข้างแปลกใจในพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของมนชญา แต่ทุกคนก็คิดว่าที่มนชญาเป็นแบบนี้ก็เพราะการกระทบกระเทือนทางสมองจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

อินตราใช้ชีวิตในร่างของมนชญาอย่างมีความสุข เธอฉวยโอกาสก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารทุกอย่างแทนไกรสรที่ป่วยอยู่ แต่การทำงานของอินตราในร่างมนชญา ทำให้เกิดปัญหาเกิดขึ้นมากมาย เพราะลายเซ็นของมนชญาเปลี่ยนไป อินตราในร่างมนชญาจึงต้องพยายามหัดเซ็นลายเซ็นให้เหมือนของเดิมของมนชญา จนเธอสามารถเซ็นเหมือนมนชญา อินตรายิ่งย่ามใจว่าจะไม่มีอะไรมาขัดขวางเธอได้อีกต่อไป

แล้ววันหนึ่งสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อมนชญานั้นฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่ง เพราะชาวบ้านพบเธอลอยมาติดท่าน้ำจึงพามาส่งโรงพยาบาล และมนชญาต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบว่าตัวเองอยู่ในร่างของอินตรา ! เมื่อตั้งสติได้เธอก็รีบกลับบ้านทันที แล้วมนชญาก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบว่าเธอกับอินตรานั้นสลับร่างกัน !

มนชญาในร่างอินตราพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ทุกคนรู้ว่าความจริงเธอเป็นใคร แต่ไม่มีใครเชื่อ และยังคิดว่าอินตราพยายามจะทำร้ายมนชญาอีก ภูมินทร์ต่อว่าร่างของอินตราอย่างรุนแรง เพราะยังโกรธเรื่องที่เขาเห็นอินตราขับรถพุ่งชนคู่หมั้นสาว โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าผู้หญิงที่เขารักอยู่ในร่างนี้ แต่อินตราในร่างมนชญาก็แสร้งทำเป็นคนดีด้วยการบอกยกโทษให้ที่อินตราจะฆ่าตน แต่กัลยาณีก็ยังไม่ยอม เธอจึงด่าและตบร่างของอินตราด้วยความโมโห เพราะคิดว่าเธอนั้นจะฆ่าทั้งไกรสรและหลานสาวของเธอ แต่นพดลก็ช่วยปกป้องร่างของอินตราแล้วพาเธอออกไป

มนชญาในร่างอินตราเสียใจมาก และไม่รู้จะใช้ชีวิตยังไง แต่แล้วป้านวลที่ไม่รู้เรื่องอะไรแต่รักอินตรามากก็ช่วยให้เงินที่เก็บเอาไว้กับร่างของอินตรา มนชญาในร่าง อินตราขอบคุณป้านวลอย่างซึ้งใจที่ช่วยเหลือ ทำให้ป้านวลแปลกใจที่อินตราพูดดีกับตนทั้งๆ ที่เมื่อก่อนแค่หน้า อินตรายังไม่อยากจะมองเลย

อินตราในร่างมนชญาแอบไปพบกับมนชญาที่อยู่ในร่างของอินตราตามลำพัง เพื่อพูดขู่ให้มนชญาเลิกพยายามบอกคนอื่นในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะคิดว่าคงไม่มีใครเชื่อ และขู่ว่าถ้ามนชญาปากโป้ง ตนจะทำร้ายไกรสร ทำให้มนชญากลัว แต่อินตรากลับไม่คิดทำร้ายร่างของตัวเอง เพราะเธออยากให้มนชญาได้รับรู้ถึงรสชาติของการถูกรังเกียจบ้าง

วันหนึ่งนพดลไปเยี่ยมอินตราที่บ้านเช่าหลังเล็กที่มนชญาเอาเงินของป้านวลไปเช่าอยู่ แต่บังเอิญเขาก็ได้ไปช่วยมนชญาในร่างอินตราจากการถูกทำร้ายจากคู่อริของอินตรา นพดลพาร่างอินตราที่ได้รับบาดเจ็บกลับมาที่บ้านและช่วยดูแลอย่างดี ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนอินตราตัวจริงจะเคยดูถูกตนว่าเป็นพวกปลิงดูดเลือดของไกรสรก็ตาม แต่นพดลก็ไม่เคยนึกโกรธเธอเลย แล้วนพดลก็สังเกตท่าทีที่เปลี่ยนไปของอินตรา จนเขารู้ความลับว่ามนชญาอยู่ในร่างอินตรา ส่วนร่างมนชญาที่ไปทำงานทุกวันนั้น แท้จริงแล้วเป็นอินตราหญิงสาวนิสัยไม่ดี ! มนชญาในร่างอินตราขอให้นพดลปิดเรื่องนี้เป็นความลับ และขอให้นพดลช่วยพายุวดีมาพบเธอ

ยุวดียอมมาพบกับนพดล แต่พอเธอเห็นหน้าอินตราที่มาด้วย ยุวดีก็ไม่พอใจเพราะเธอเกลียดอินตราที่พยายามจะฆ่ามนชญาเพื่อนสนิทของเธอ แต่มนชญาที่อยู่ในร่างอินตราก็พยายามอธิบายทุกอย่างให้ฟัง และพยายามพิสูจน์กับยุวดีว่าตนคือมนชญาไม่ใช่อินตรา ด้วยการเล่าเรื่องอดีตสมัยเรียนให้ยุวดีฟัง ยุวดีนึกไปถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของมนชญานับตั้งแต่ที่เกิดอุบัติเหตุ จนยุวดียอมเชื่อและแปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก

มนชญานึกถึงคำพูดที่แม่ชีจันเคยเตือนตน เธอจึงพายุวดีและนพดลพาไปหา แม่ชีจันเพื่อหาทางแก้ไข แต่แม่ชีจันบอกว่าไม่มีสิ่งใดแก้ไขได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่เวรกรรม และถ้ายังไม่สามารถแก้ได้จนถึงวันที่ทั้งมนชญาและอินตราอายุครบ 25 ปี ทั้งสองจะต้องอยู่ในร่างนี้ตลอดไป ซึ่งอีก 1 เดือนข้างหน้าก็จะถึงวันเกิดครบ 25 ปีแล้ว !

ยุวดีกลับบ้านอย่างกลัดกลุ้มและเธอก็มาพบมนชญาที่เธอรู้อยู่เต็มอกว่าแท้จริงแล้วเป็นวิญญาณของอินตราผู้หญิงที่เธอเกลียดสิงอยู่กำลังทะเลาะกับกุ๊กไก่ แต่ยุวดีก็ต้องทำทุกอย่างให้แนบเนียนที่สุด เพราะเธอยังไม่อยากอินตราที่อยู่ในร่างของมนชญารู้เรื่องเข้าเสียก่อน เพราะ อินตราอาจจะขัดขวางการกลับคืนร่างเดิมก็ได้ และยุวดีก็ต้องกลุ้มใจมากเมื่อจู่ๆ อินตราในร่างมนชญาก็เร่งรัดพ่อแม่ของตนเรื่องแต่งงานกับภูมินทร์ ดังนั้นเธอจึงรีบคิดช่วยขัดขวางทุกอย่างที่อินตราทำ และช่วยเพื่อนสนิทให้กลับร่างเดิมก่อนที่อินตราตัวร้ายจะครอบครองทุกอย่างของมนชญา

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมานพดลและยุวดีก็พยายามช่วยมนชญาให้กลับคืนร่างเดิมให้ได้ อาศัยทั้งวิทยาศาสตร์และไสยศาสตร์ก็แล้ว แต่ไม่ว่าจะทำหนทางใดก็ไม่สำเร็จ มนชญาเริ่มที่จะยอมรับสภาพที่เธอจะต้องอยู่ในร่างของอินตรา แต่มนชญาก็ยังต้องการพบและดูแลไกรสรมาก แต่เธอก็ทำไม่ได้ เพราะมีกัลยาณีคอยขวางทางอยู่ มนชญาในร่าง อินตราจึงทำได้เพียงแค่ฝากให้นพดลกับยุวดีไปดูแลไกรสรแทนตน

ในขณะเดียวกันอินตราก็ไม่สนใจที่จะดูแลไกรสรเลยสักนิด แม้กัลยาณีจะเตือนให้เธอไปดูแลไกรสรบ้าง แต่อินตราในร่างมนชญาก็ไม่สนใจ เพราะวันๆ เธอก็เอาแต่ไปนั่งเฝ้าภูมินทร์ที่ทำงานแทบทุกวันและคอยหาเรื่องเล่นงานกิ่งกาญจน์ที่ชอบยั่วภูมินทร์ด้วย ซึ่งกิ่งกาญจน์เองก็ไม่เคยนึกเอะใจเลยว่าคู่หมั้นสาวแสนจืดของภูมินทร์จะร้ายกาจได้ถึงเพียงนี้ แต่กิ่งกาญจน์ก็ไม่ยอมเธอหมายจะจับภูมินทร์ให้ได้ อินตราในร่างมนชญาจึงมีเรื่องตบตีกับกิ่งกาญจน์บ่อยๆ สร้างความปวดหัวให้กับภูมินทร์เป็นอย่างมาก และเขาก็เริ่มรู้สึกไม่แน่ใจแล้วว่า เขายังรักมนชญาอยู่หรือไม่ !

มนชญาในร่างอินตรานั้นต้องการทำงานเลี้ยงชีพในระหว่างที่หาทางกลับคืนร่าง เพื่อให้ตนมีชีวิตอยู่ได้ ยุวดีจึงพามนชญาในร่างอินตราไปสมัครเป็นครูสอนเด็กอนุบาลที่โรงเรียนของกุ๊กไก่ เพราะเจ้าของโรงเรียนเป็นญาติสนิทของยุวดี โดยที่นพดลเป็นคนไปขโมยเอกสารทางราชการของอินตรามาให้ใช้ในการสมัครทำงาน

เมื่อมนชญาในร่างอินตราสอนเด็กๆ ที่โรงเรียน ทำให้มนชญาในร่างอินตราได้พบกับภูมินทร์ที่มักจะมารับหลานสาวที่โรงเรียนตามลำพังบ่อยๆ แต่อินตราในร่างมนชญาจะไม่ยอมมาด้วย เพราะเธอไม่ชอบกุ๊กไก่มาก ในตอนแรกภูมินทร์มีท่าทางรังเกียจมนชญาในร่างอินตรามาก และเขาก็ยังไปต่อว่ายุวดีที่จู่ๆ ไปญาติดีกับอินตรา ยุวดีอัดอั้นอยากจะบอกความจริงกับพี่ชายมาก แต่ยุวดีมั่นใจว่าภูมินทร์ไม่เชื่อแน่ๆ หนำซ้ำตอนนี้ภูมินทร์ยังเกลียดร่างอินตรามากด้วย เธอจึงปิดเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับ

ความอ่อนโยนของมนชญาทำให้กุ๊กไก่รักและติดครูสาวคนใหม่มาก แล้ววันหนึ่งกุ๊กไก่ก็เผลอวิ่งออกไปเก็บของที่ริมถนนจนเกือบจะถูกรถชน แต่มนชญาในร่างอินตราก็ช่วยเอาไว้ได้ทัน จนมนชญาต้องบาดเจ็บเสียงเอง ภูมินทร์ที่เข้ามาเห็นพอดีก็รีบพามนชญาในร่างอินตราไปส่งโรงพยาบาล และกุ๊กไก่ก็ยังเซ้าซี้ให้ภูมินทร์ไปเยี่ยมครูสาวแทบทุกวัน ทำให้ภูมินทร์กับมนชญาได้ใกล้ชิดกัน แล้วภูมินทร์ก็รู้สึกดีกับร่างของอินตราขึ้นมาอย่างประหลาด ทั้งๆ ที่เขาเคยเกลียดผู้หญิงคนนี้เข้าไส้ !

อินตราในร่างมนชญาทะเลาะกับภูมินทร์ที่คู่หมั้นหนุ่มไม่ยอมพาไปเที่ยวตอนกลางคืน อินตราก็เลยประชดด้วยการออกไปเที่ยวตามลำพังจนเมาแอ่นแล้วมีเรื่องกับคนอื่นจนต้องขึ้นโรงพัก สร้างความอับอายให้กัลยาณีมาก แต่อินตราในร่างมนชญาก็ไม่สนใจซ้ำยังต่อว่ากัลยาณี จนกัลยาณีรู้สึกหงุดหงิดหลานสาวมาก

ส่วนภูมินทร์โกรธและผิดหวังในตัวคู่หมั้นสาวมากที่ทำตัวไม่ดี อินตราในร่างมนชญากลัวว่าภูมินทร์จะไม่รักตน ดังนั้นเธอจึงพยายามทำตัวให้น่ารักขึ้นเพื่อเอาใจภูมินทร์ ด้วยการไปรับกุ๊กไก่ที่โรงเรียน แล้วอินตราก็พบมนชญาเป็นครูสอนอยู่ที่นั่น อินตราในร่างมนชญาโกรธมากที่รู้ว่าหลักฐานการสมัครงานทั้งหมดเป็นของจริง และผู้ที่นำมาให้ก็คือนพดล

อินตราในร่างมนชญาไปด่านพดลและยื่นคำขาดไม่ให้นพดลไปยุ่งกับอินตราอีก แต่เธอไม่คิดว่านพดลจะรู้ความจริงเรื่องที่เธอกับมนชญาสลับร่างกันแล้ว เพราะอินตราคิดว่าเป็นเพราะนพดลรักตนมานานก็เลยคงอยากจะช่วย โดยที่ไม่รู้ว่าในร่างของอินตรานั้นเป็นมนชญา อินตราในร่างมนชญาด่านภดลสาดเสียเทเสียและขู่ว่าถ้านพดลยุ่งกับ อินตราอีก เธอจะไล่เขาออก ทำให้นพดลเลิกรักผู้หญิงใจดำคนนี้โดยสิ้นเชิง แต่เขากลับรู้สึกดีกับยุวดีที่เขาได้มีโอกาสใกล้ชิดอย่างไม่รู้ตัว ส่วนยุวดีก็แอบชอบนพดลเข้าแล้วเหมือนกัน แต่เธอก็ยังไม่กล้าเปิดใจกับเขา เพราะคิดว่านพดลยังรักอินตราอยู่

อินตราในร่างมนชญาไปหาเรื่องมนชญาเพื่อขู่ให้เธออย่ามายุ่งกับภูมินทร์ แต่มนชญาไม่ยอม ทำให้ทั้งสองมีเรื่องตบตีกัน แล้วภูมินทร์กับกุ๊กไก่ก็มาเห็นพอดี อินตราในร่างมนชญาทำออดอ้อนว่าตัวเองถูกรังแก แต่กุ๊กไก่กลับปกป้องและดูรักมนชญาในร่างอินตรามาก อินตราในร่างมนชญาไม่พอใจ เธอจึงคิดวางแผนเพื่อให้มนชญาถูกไล่ออกจากโรงเรียน ด้วยการจับตัวกุ๊กไก่ไปในขณะที่เด็กน้อยกำลังเรียนพิเศษอยู่กับมนชญา แล้วอินตราก็ตีหลังมนชญาให้สลบไปแล้วพากลับไปบ้าน พอทุกคนช่วยกุ๊กไก่มาได้ ทุกคนก็เลยคิดว่ามนชญาในร่างอินตราประมาท ทิ้งเด็กเอาไว้คนเดียวจนถูกจับตัวไป แล้วมนชญาในร่างอินตราก็ถูกไล่ออกจากโรงเรียนในที่สุด

แต่อินตราในร่างมนชญาก็ยังไม่หยุดกระทำน่ารังเกียจ เธอเข้าไปหาไกรสรและแกล้งเขาจนตกลงมาจากเตียง ทำให้ไกรสรอาการทรุดลง พอข่าวเรื่องไกรสรป่วยรู้ไปถึงหูของมนชญาในร่างอินตรา เธอก็เป็นห่วงไกรสรมาก

มนชญาขอร้องให้นพดลพาเธอไปพบไกรสร นพดลยอมช่วยโดยมียุวดีเป็นลูกมือ และทันทีที่มนชญาในร่างอินตราได้พบไกรสรเธอก็โผเข้าหาด้วยความคิดถึงจับใจ ในตอนแรกไกรสรมีท่าทางรังเกียจร่างของอินตรา แต่พอมนชญาบอกว่าตนคือใคร ไกรสรก็มีท่าทางอ่อนโยนลงจนเกือบจะเชื่อแล้ว แต่อินตราในร่างมนชญาที่กลับมาพร้อมกับภูมินทร์เข้ามาเห็นเสียก่อน อินตราในร่างมนชญาโวยวายใหญ่ว่าอินตราพยายามจะทำร้ายไกรสร กัลยาณีกับเหล่าคนใช้ในบ้านต่างก็พากันมาขับไล่อินตราออกไป ไกรสรมองเหตุการณ์ทุกอย่างแล้วเริ่มนึกรู้ว่าบุคคลที่อยู่ในร่างของลูกสาวตนนั้นไม่ใช่มนชญา !

หลังจากนั้นไกรสรจะไม่ยอมกินข้าวที่อินตราในร่างมนชญาเป็นคนป้อน และมองหน้าลูกสาวตัวเองด้วยแววตาเกลียดชัง อินตราในร่างมนชญานึกรู้ว่าไกรสรรู้ความจริงแล้ว เธออยากจะเล่นงานไกรสร แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะภูมินทร์และกัลยาณีอยู่ด้วย แต่พอพ้นจากสายตาของทุกคน อินตราในร่างมนชญาก็ต่อว่าไกรสรอย่างรุนแรง และหัวเราะเยาะที่ไกรสรไม่มีทางช่วยเหลือมนชญาได้เลย ซึ่งทั้งหมดนี้ป้านวลแอบมาได้ยินเข้าพอดี !

ป้านวลนึกทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างมนชญากับอินตรา เธอก็เลยแกล้งทำน้ำส้มแบบหวานเจี๊ยบแบบที่มนชญาตัวจริงชอบให้มนชญา แต่มนชญากลับไม่ชอบและยังขอให้ทำแบบเปรี้ยวๆ ทำให้ป้านวลแน่ใจว่าคนที่อยู่ในร่างของมนชญาคืออินตรา !

ป้านวลบอกกับอินตราว่าเธอรู้เรื่องแล้ว และป้านวลก็พร้อมที่จะอยู่ข้างอินตรา ดังนั้น อินตราจึงสั่งให้ป้านวลคอยดูแลเป็นหูเป็นตาแทนตน หนำซ้ำอินตรายังสั่งให้ ป้านวลเอายาพิษที่กินแล้วค่อยๆ ตายให้ไกรสรกิน ซึ่งป้านวลก็ยอมทำ

หลังจากนั้นอาการของไกรสรก็ทรุดลงทุกวัน มนชญารู้เรื่องจากนพดลก็ไม่สบายใจมากเธอจึงแอบเข้าไปหาไกรสรในบ้านอีกครั้ง โดยที่ยุวดีวางแผนหลอกล่อให้ดุสิตและวารีชวนกัลยาณีและอินตราไปทานข้าวที่บ้าน พอมนชญาเห็นสภาพที่แย่มากของไกรสร เธอก็ทนไม่ได้ มนชญาในร่างอินตรากับนพดลรีบพาไกรสรไปหาหมอ จนรู้ว่าไกรสรได้รับสารพิษเข้าไปในร่าง !

อินตรากลัวความผิด เธอจึงฉวยโอกาสโยนความผิดให้ป้านวลคนเดียว และ ป้านวลก็ถูกจับเพราะมีหลักฐานเป็นยาพิษอยู่ในห้องของป้านวล ป้านวลพยายามบอกความจริงว่าเป็นฝีมือของอินตราที่อยู่ในร่างของมนชญาแต่ก็ไม่มีใครเชื่อ และอินตราก็ไม่ยอมเปิดโอกาสให้ป้านวลพูดอะไรมากด้วย กัลยาณีเชื่อว่าเป็นฝีมือป้านวล เพราะคิดว่าป้านวลคงแค้นใจแทนอินตราหลานสาวของตัวเอง ป้านวลถูกจับติดคุกและเธอก็นึกเสียใจมากที่หลานสาวสุดที่รักทำกับเธอแบบนี้ ป้านวลจึงฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิด !

มนชญาเสียใจมากเรื่องที่อินตราทำร้ายไกรสร เธอจึงพยายามตีตัวออกห่างภูมินทร์ เพื่อให้อินตราในร่างมนชญาพอใจ แต่หัวใจของภูมินทร์ก็เรียกร้องหาร่างของอินตรา เขาจึงหมั่นไปหาเธอที่บ้าน โดยเอากุ๊กไก่มาเป็นข้ออ้างอยู่บ่อยๆ

แล้ววันหนึ่งนพดลกับยุวดีก็บังเอิญแวะมาหามนชญาในร่างอินตราพร้อมกับภูมินทร์ ภูมินทร์แปลกใจที่ยุวดีสนิทสนมกับอินตรามากขนาดนี้ เขาจึงคาดคั้นถามจากยุวดี จนยุวดียอมบอกว่าความจริงแล้วอินตรากับมนชญาสลับร่างกัน !

ภูมินทร์ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เขาก็ลองพิสูจน์ตามที่ยุวดีแนะนำ ด้วยการพาร่างของมนชญาไปในสถานที่ ที่เมื่อก่อนเขากับมนชญาเคยไปด้วยกัน แต่มนชญากลับจำเรื่องระหว่างเขากับเธอไม่ได้เลย หนำซ้ำเมื่ออยู่กันสองต่อสองมนชญาก็มีท่าทางยั่วยวนภูมินทร์เหมือนกับตอนที่อินตราเคยมายั่วยวนเขาเลย ทั้งที่เมื่อก่อนทั้งภูมินทร์และมนชญาต่างตกลงกันว่าจะไม่มีเรื่องเสียหายเกิดขึ้น จนกว่าทั้งสองจะแต่งงานกันอย่างถูกต้อง ยิ่งทำให้ภูมินทร์แน่ใจว่าคนที่อยู่ในร่างของมนชญาไม่ใช่ผู้หญิงที่หญิงเขารัก !

หลังจากนั้นภูมินทร์ก็ไปหามนชญาในร่างอินตราและลองพิสูจน์เหมือนอย่างที่เขาทำกับร่างของมนชญา แต่แล้วเขาก็พบว่าร่างของอินตรารู้และมีพฤติกรรมเหมือนอย่างที่คู่หมั้นสาวตัวจริงของเขาเคยทำ ภูมินทร์อึ้งแล้วสวมกอดเธอด้วยความรัก มนชญาในร่างอินตราดีใจที่ภูมินทร์รู้ความจริง มนชญาในร่างอินตราเล่าเรื่องทุกอย่างให้ภูมินทร์ฟัง พอภูมินทร์รู้ความจริงทุกอย่าง เขาก็อึ้งไปและเขาก็สัญญากับมนชญาว่าต่อไปเขาจะช่วยเธอเอง

อินตราสังเกตว่าภูมินทร์เหินห่างจากตัวเองมากขึ้น หนำซ้ำกิ่งกาญจน์ยังมาเยาะเย้ยทุกครั้งเวลาที่ภูมินทร์หลบหน้าตนด้วย อินตราเห็นท่าไม่ดี เธอจึงคิดวางแผนมอมเหล้าภูมินทร์แล้วพาเข้าโรงแรม แล้วอินตราก็สั่งให้นักข่าวมาถ่ายรูปไปลงหนังสือพิมพ์ ทำให้มนชญาเสียหาย ดุสิตกับวารีไม่พอใจเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งสองจึงสั่งให้ภูมินทร์แต่งงานกับมนชญาให้เร็วที่สุด ทั้งที่ภูมินทร์ไม่เต็มใจเลย แต่เขาก็จำเป็นต้องแต่งเพื่อรักษาหน้าพ่อแม่ของเขา

อินตราในร่างมนชญาไปเยาะเย้ยมนชญาเรื่องที่เธอจะแต่งงานกับภูมินทร์ มนชญาเสียใจมาก แต่เธอก็พร้อมทำใจยอมรับกับความจริง และพร้อมจะยินดีกับความสุขของพี่สาวต่างสายเลือดจากใจจริง

แต่งานแต่งงานของภูมินทร์กับอินตราในร่างมนชญาไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เพราะกิ่งกาญจน์ที่ไม่อยากให้มีการแต่งงานของภูมินทร์เกิดขึ้นเหมือนกันได้พบกับนักข่าวที่อินตราในร่างมนชญาจ้างมา กิ่งกาญจน์เอาเรื่องนี้ไปแฉกลางงานแต่งงาน ยุวดีก็ยิ่งช่วยพูดยุให้ดุสิตและวารีเปลี่ยนใจ ทันใดนั้นภูมินทร์ก็ตัดสินใจประกาศยกเลิกแต่งงานกลางคัน ทำให้อินตราในร่างมนชญาโกรธมาก

ด้วยความโมโหสุดขีดอินตราในร่างมนชญาไปจัดการกิ่งกาญจน์ และใช้มีดกรีดหน้าจนกิ่งกาญจน์เสียโฉม กิ่งกาญจน์อาฆาตแค้นคู่หมั้นของภูมินทร์มาก !

มนชญากลับบ้านไปก็พบภูมินทร์รออยู่ เขาโผกอดเธอและสัญญาว่าจะแต่งงานกับจิตใจของมนชญาคนเดียว แล้วในขณะนั้นอินตราที่ต้องการจะปรับความเข้าใจกับภูมินทร์ แต่ตามหาตัวเขาไม่เจอ อินตรานึกเอะใจจึงตัดสินใจไปที่บ้านของมนชญา แล้วเธอก็พบภูมินทร์อยู่ที่นั่นจริงๆ รวมทั้งยุวดีและนพดลด้วย พออินตราในร่างมนชญาเห็นทุกคนอยู่ในนั้น เธอจึงแน่ใจว่าทุกคนรู้เรื่องแล้ว และอินตราก็ยังได้ยินยุวดีพูดถึงเรื่องที่ว่าถ้าเธอกับมนชญากลับคืนร่างเดิมไม่ได้ภายในวันเกิดอายุครบ 25 ปี ทั้งสองก็จะกลับคืนร่างเดิมไม่ได้ ซึ่งก็คือวันพรุ่งนี้แล้ว !

อินตราจึงจับมนชญาในร่างอินตราไปที่ตึกร้างแห่งหนึ่งเพื่อจะเอาไปหวังจะฆ่าทิ้ง แล้วเธอก็จะแกล้งบอกกับทุกคนว่ามนชญาได้คืนร่างเดิมแล้ว และเธอก็จะกลับมาเป็นมนชญาเหมือนเดิม แต่มนชญาก็ดิ้นต่อสู้ อินตราก็เลยทำร้ายมนชญาในร่างอินตราจนใบหน้าเสียโฉม อินตราสะใจมากเพราะใกล้เวลาเที่ยงคืนแล้ว และเมื่อถึงวันที่อินตรากับมนชญาอายุครบ 25 เมื่อไหร่ ทั้งสองก็จะไม่สามารถกลับคืนร่างเดิมได้ แต่แล้ว กิ่งกาญจน์ที่มาในสภาพเสียโฉมก็ตามมายิงอินตราในร่างมนชญาอย่างจัง กิ่งกาญจน์กำลังจะยิงซ้ำอีกนัด แต่มนชญาที่อยู่ในร่างของอินตราก็ช่วยเอาตัวบังกระสุนให้จนทั้งสองตกน้ำไป ในช่วงเวลาก่อนเที่ยงคืนพอดี !

ภูมินทร์ นพดลและยุวดีที่ตามมาถึงก็รีบช่วยอินตรากับมนชญาขึ้นมาแล้วรีบพาส่งโรงพยาบาล ในขณะเดียวกันกิ่งกาญจน์ก็ถูกตำรวจจับไปโทษฐานพยายามฆ่าคนตาย

ร่างของอินตรากับมนชญาสลบอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลาหลายวัน ทุกคนต่างเป็นห่วงมนชญามาก แต่ก็ไม่รู้ว่าในตอนนี้มนชญาอยู่ในร่างไหน กัลยาณีงุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น ภูมินทร์จึงเล่าทุกอย่างให้ฟัง ทำให้กัลยาณีอึ้งมาก !

แล้วร่างของอินตราที่ใบหน้าเสียโฉมฟื้นขึ้น อินตราจึงรู้ตัวว่าตัวเองกลับคืนร่างเดิมแล้ว และอินตราก็ต้องสติแตกที่ใบหน้าตัวเองเสียโฉมกลายเป็นคนอัปลักษณ์จนกลายเป็นบ้าไป

ส่วนร่างของมนชญานั้นยังไม่ฟื้น เพราะกระสุนถูกบริเวณที่สำคัญ ภูมินทร์เฝ้ารอให้คนรักลับมา ในขณะเดียวกันวิญญาณของมนชญาก็ล่องลอยเพราะหาทางไปไม่ถูก แล้วจิตของแม่ชีจันก็เรียกให้มนชญาไปบอกว่าทุกอย่างจบลงแล้ว เพราะมนชญาได้ทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ด้วยการช่วยเหลือชีวิตคน และผลบุญที่ยิ่งใหญ่นี้ทำให้เธอได้สิ่งที่ดีๆ ตอบแทน แล้วก็มีลำแสงสีทองปรากฏขึ้น แม่ชีจันบอกให้มนชญากลับไป แล้วหญิงสาวก็รีบไปตามแสงจนกลับไปสู่ร่างของตัวเอง

ทุกคนดีใจที่มนชญากลับคืนร่างของตัวเอง เมื่อมนชญาหายดี ภูมินทร์ก็ไปขอมนชญากับไกรสรที่อาการดีขึ้นมาก ส่วนนพดลกับยุวดีก็ยอมเปิดใจให้กันและรู้ว่าทั้งสองรักกัน นพดลก็เลยขอยุวดีเป็นแฟน กุ๊กไก่ดีใจมากที่ยุวดีอาสาวขายออกอย่างที่คุณย่าบอกสักที

ภูมินทร์กับมนชญาพากันไปหาอินตราที่โรงพยาบาลบ้า มนชญาสงสารอินตรามาก ซึ่งทำให้ภูมินทร์แปลกใจที่หญิงสาวไม่โกรธอินตราเลย มนชญาบอกว่าเธอไม่จำเป็นต้องโกรธ เพราะว่าใครทำอะไรไว้ เวรกรรมก็จะส่งผลถึงคนผู้นั้นเอง


------------- จบบริบูรณ์ ---------------

ที่มา ch7.com
 

เรตติ้ง เพลิงพรหม

วันศุกร์ที่        22 เมษายน 2554  เรตติ้ง  11.5
วันเสาร์ที่       23 เมษายน 2554  เรตติ้ง  12.8
วันอาทิตย์ที่  24  เมษายน  2554  เรตติ้ง  13.8

วันศุกร์ที่        29 เมษายน 2554  เรตติ้ง  12.2
วันเสาร์ที่       30 เมษายน 2554  เรตติ้ง  13.1
วันอาทิตย์ที่  1 พฤษภาคม  2554  เรตติ้ง  14.4

เรตติ้งละคร ข้ามเวลาหารัก ช่อง5

ละคร ข้ามเวลาหารัก



บทโทรทัศน์โดย : พิมพ์มาดา พัฒนอลงกรณ์, ศุภกร เหรียญสุวรรณ, ชวนนท์ สารพัฒน์, อภิศรา วงศกร, กรณิภา ตวงมุสิทธิ์
กำกับการแสดงโดย : ถกลเกียรติ วีรวรรณ
ออกอากาศทุกวัน จันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 5

รายชื่อนักแสดงนำในละคร ข้ามเวลาหารัก
สินจัย เปล่งพานิช   รับบทเป็น   แพรพิมพ์  
สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว   รับบทเป็น   เพชร/ครูพัด  
ภาคิน คำวิลัยศักดิ์   รับบทเป็น   คิด  
พรรณวรท ด้วยเศียรเกล้า   รับบทเป็น   เหมือนไหม  
รัดเกล้า อามระดิษ   รับบทเป็น   โอบอรุณ  
อนุชิต สพันธุ์พงษ์   รับบทเป็น   ต่อ  
บุตรศรัณย์ ทองชิว   รับบทเป็น   ปิ่น  
นรินทร์ ภูวนเจริญ   รับบทเป็น   กาย  
สถาพร นาควิไล   รับบทเป็น   พิษณุ  
เมย์ เฟื่องอารมย์   รับบทเป็น   วิภาวรรณ  
โฉมฉาย ฉัตรวิไล   รับบทเป็น   ยายน้อย  
เกรียงไกร อุณหะนันทน์   รับบทเป็น   อภิชาติ  
สุเชาว์ พงษ์วิไล   รับบทเป็น   พลากร  
ประสาท ทองอร่าม   รับบทเป็น   เจ้าพ่อพญาดำ  
วรรณรท สนธิไชย   รับบทเป็น   แพรพิมพ์ (ปี พ.ศ. 2535)  

เรื่องย่อ ข้ามเวลาหารัก

พ.ศ. 2535 เพชร (บี้ สุกฤษฎิ์) นักร้องในผับที่มีความฝันอยากออกเทปมีชื่อเสียงโด่งดัง โดยมี แพรพิมพ์ (วิว วรรณรท) แฟนสาวคอยเป็นกำลังใจ แต่ อภิชาติ (เกรียงไกร อุณหะนันท์) พ่อของพิมพ์ไม่ชอบ เพราะเห็นว่าเพชรเป็นแค่นักร้องไม่มีอนาคต จึงวางแผนให้พิมพ์หมั้นหมายกับ พิษณุ (สถาพร นาควิไล) ลูกชายของ พลากร (สุเชาว์ พงษ์วิไล) นักการเมืองชื่อดัง และบังคับให้พิมพ์เลิกคบกับเพชร ทั้งคู่จึงพากันหนีไปอยู่หัวหิน

          แล้วคืนหนึ่งระหว่างเที่ยวงานวัด เพชรก็เจอ เจ้าพ่อพญาดำ (ประสาท ทองอร่าม) สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เพชรกราบไหว้ตั้งแต่เด็ก เจ้าพ่อรู้ว่าเพชรกำลังมีเคราะห์หนัก ด้วยความสงสารและเห็นว่าเพชรเป็นคนดี จึงใช้อิทธิฤทธิ์พาเพชรข้ามเวลาไปในปีพ.ศ.2554 เพื่อให้เพชรได้เห็นอนาคตของตัวเอง

          พ.ศ. 2554 หลังจากข้ามเวลามา 19 ปี  สิ่งที่เพชรได้เห็นคือ พิมพ์ (สินจัย เปล่งพานิช) ที่ปัจจุบันอายุ 43 ปี มี เหมือนไหม (แกรนด์ พรรณวรท) เป็นลูกสาวและพิษณุเป็นสามี เพชรทั้งช็อคและเสียใจที่ไม่ได้ลงเอยกับพิมพ์อย่างที่หวัง หนำซ้ำพอกลับไปที่บ้านก็พบว่าถูกปิดร้าง แถม ยายน้อย (โฉมฉาย ฉัตรวิไล) ที่เลี้ยงเพชรมาตั้งแต่เด็กก็ไปอยู่บ้านพักคนชรา ทำให้เพชรยิ่งสงสัยว่า 19 ปีที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกับเค้า เพชรจึงอยากสืบหาความจริง เพื่อจะได้กลับไปแก้ไขเหตุการณ์ที่ผิดพลาดในอดีต ด้วยการไปสมัครงานเป็นครูสอนร้องเพลงที่โรงเรียนร้องเพลงของพิมพ์ โดยใช้ชื่อว่า พัด

          ครั้งแรกที่พิมพ์ได้ยินเสียงร้องและเห็นหน้าของครูพัด พิมพ์ก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ว่าจะมีคนที่หน้าตาเหมือนกับเพชร คนรักเก่าของเธอได้มากขนาดนี้ พิมพ์จึงไม่อยากรับครูพัดเข้าทำงาน แต่ โอบอรุณ (รัดเกล้า อามระดิษ) เพื่อนรักของพิมพ์ ที่ชื่นชมในเสียงร้องและหน้าตาของครูพัด ก็กล่อมจนพิมพ์ใจอ่อนรับครูพัดเข้าทำงาน ทำให้เพชรได้พบกับ ต่อ (โอ อนุชิต) ลูกพี่ลูกน้องของพิมพ์ที่ผูกพันกับเพชรตั้งแต่เด็ก

          คิด (โตโน่ เดอะสตาร์) เด็กส่งกาแฟที่มีความฝันอยากเป็นนักร้อง กาย (เอ นรินทร์) เพลย์บอยหนุ่มไฮโซเอาแต่ใจ ซึ่งทั้งคู่ต่างก็หลงรักไหมจึงไม่ถูกกัน และ ปิ่น (น้ำตาล เดอะสตาร์) สาวมั่นนิสัยทะเยอทะยาน รวมทั้งได้รู้ว่าชีวิตครอบครัวของพิมพ์ไม่มีความสุข เพราะพิษณุมีผู้หญิงอีกคนคือ วิภาวรรณ (เมย์ เฟื่องอารมย์) ทำให้เพชรยิ่งเสียใจและต้องการจะรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเค้ากับพิมพ์!!          เวลาผ่านไปเพชรและพิมพ์ก็ยิ่งสนิทสนมกันจนทำให้ไหมระแวงและเกลียดขี้หน้าเพชร เพราะคิดว่าเพชรจะมาแย่งแม่ไปจากพ่อของเธอ ปัญหาระหว่างแม่กับลูกจึงเกิดขึ้น ในขณะที่เพชรค่อย ๆ พบคำตอบในสิ่งที่ไม่อาจจะคาดถึง สุดท้ายความจริงที่เพชรตามหาคืออะไร? และเพชรจะกลับไปแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตสำเร็จหรือไม่? ตามชมมิวสิคัลออนทีวี ข้ามเวลาหารัก ได้ทุกวันจันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 5 ละครข้ามเวลาหารัก เริ่มตอนแรกวันจันทร์ที่ 18 เมษายน 2554
ที่มา exact

เรตติ้งข้ามเวลาหารัก

วันจันทร์ที่      18 เมษายน 2554    เรตติ้ง  3.3
วันอังคารที่     19 เมษายน  2554   เรตติ้ง  4.2
วันพุธที่           20 เมษายน   2554  เรตติ้ง 3.0
วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน  2554   เรตติ้ง 3.2

วันจันทร์ที่      25 เมษายน 2554    เรตติ้ง  4.6
วันอังคารที่     26 เมษายน  2554   เรตติ้ง  4.6
วันพุธที่           27 เมษายน   2554  เรตติ้ง 3.1
วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน  2554   เรตติ้ง 2.9

วันจันทร์ที่      2 พฤษภาคม 2554  เรตติ้ง  3.4(เบรค1)  2.9(เบรค2)
วันอังคารที่     3 พฤษภาคม 2554   เรตติ้ง  3.7
วันพุธที่           4 พฤษภาคม 2554  เรตติ้ง 2.5(เบรค1) 3.5(เบรค2)
วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม 2554  เรตติ้ง 3.0

วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เรตติ้งละคร มนต์รักแม่น้ำมูล ช่อง7

ละครมนต์รักแม่น้ำมูล



ออกอากาศ
ละครหลังข่าว จันทร์- อังคาร 20.25 น.

บทประพันธ์
อ.พงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา

บทโทรทัศน์
คฑาหัสต์ บุษปะเกศ

กำกับการแสดง"
ธงชัย ประสงค์สันติ

ผู้ผลิต
พอดีคำ จำกัด

รายชื่อนักแสดง

เรื่องย่อ ละครมนต์รักแม่น้ำมูล


“แม่น้ำมูล” แต่เดิมนั้นสะกดด้วยคำว่า “มูน” ซึ่งในภาษาถิ่นแปลว่า “สิ่งมีค่าน่าหวงแหน เป็นมรดกของบรรพบุรุษที่สั่งสมเก็บไว้ให้ลูกหลาน” แม่น้ำสายนี้จึงไม่ใช่เป็นเพียงแค่สายเลือดหล่อเลี้ยงทุกชีวิตริมสองฝั่งน้ำ หรือเป็นเสมือนตัวแทนของความหวังอันสดใสของลูกอีสานทุกคน แต่แม่มูลยังเป็นมากกว่านั้น...ในช่วงเดือน ๔ ของทุกปี ชาวบ้านในชุมนุมเล็กๆ ริมฝั่งแม่มูล จะจัดงานบุญครั้งยิ่งใหญ่ เรียกว่า “บุญมหาชาติ” ทุกคนจะพากันแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยงาม และพกพาใบหน้าที่เปี่ยมสุขมาร่วมงานกันอย่างครื้นเครงสนุกสนาน หนึ่งในนั้นก็คือ พิณ(ศุกลวัฒน์ คณารศ ) ครูช่วยสอน และ เดือน(วรัทยา นิลคูหา) หญิงคนรัก ทั้งสองรักกันมากแต่จำต้องพรากจากกัน เพราะลุง แสวง(ตฤณ เศรษฐโชค) กับป้าอัญชลี (กชกร นิมากรณ์)มาขอเดือนเป็นลูกบุญธรรม และตั้งใจจะส่งเสียให้เธอเรียนสูงๆ ตอนแรกเดือนไม่อยากไป แต่เธอก็ไม่สามารถขัดคำแม่ได้ จึงจำใจจากลาพิณด้วยความอาลัย พิณสัญญาว่าจะนับวันเวลารอเดือนอยู่ที่ริมแม่มูลสายนี้

พิณเห็นว่าการศึกษาเท่านั้นจะช่วยให้ลูกแม่มูลไม่ต้องพลัดพรากจากถิ่นเกิด จึงไปปรึกษาครู ตะวัน
(ปริญญ์ วิกรานต์)
ครูใหญ่โรงเรียนประจำชุมชน เรื่องการพัฒนาการศึกษา แต่ครูตะวันที่ผ่านโลกมามากและถอดใจกับเรื่องนี้ไปนานแล้ว บอกพิณว่าตอนนี้แม่มูลกำลังจะตายเพราะ เถ้าแก่เส็ง (เด่น ดอกประดู่)พาพวกมาแอบดูดทรายไปขาย ทำให้จำนวนปลาลดลง ชาวบ้านไม่สามารถทำอาชีพจับปลาได้อีกต่อไป พวกเขาจึงสนับสนุนให้ลูกหลานไปทำงานในโรงงานมากกว่าเรียนต่อสูงๆ แต่พิณเห็นว่าถ้ามีกิจกรรมอื่นให้เด็กๆทำระหว่างเรียนหนังสือ และมีรายได้มาจุนเจือครอบครัว จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ เขาจึงไปปรึกษา คำแปง(ปริศนา วงศ์ศิริ) หัวหน้าคณะลำเพลิน ที่เขาใช้เวลาว่างหลังการสอนแต่งเพลงให้

คำแปงและชาวคณะที่หากินด้วยการร้องเพลงแลกข้าวชาวบ้านเห็นดีเห็นงามด้วย หญิงสาวเห็นว่าคณะของตนพอจะมีชื่อเสียงอยู่บ้าง จึงตัดสินใจเอาที่นาที่มีอยู่ทั้งหมดไปจำนอง จัดตั้งคณะแม่มูลลำเพลินขึ้นมา โดยมีเด็กๆ เป็นหางเครื่อง พิณเป็นครูเพลง และ แคน (ธันวา สุริยจักร์)เป็นนักร้องชูโรง แคนนักร้องหนุ่มเลือดร้อนเพื่อนรักของพิณมี คำหล้า(พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) เป็นสาวคนรัก หญิงสาวเลือกที่จะรักนักร้องจนๆอย่างแคนมากกว่า ศรีไพร (ภาณุ สุวรรณโณ)ลูกชายเถ้าแก่เส็งผู้มั่งคั่งที่มาติดพัน ทำให้ศรีไพรไม่พอใจส่งคนมาก่อกวนคณะแม่มูลลำเพลินอยู่เนืองๆ จนแคนทนไม่ไหวตามไปเอาเรื่องศรีไพรถึงบ้าน ทั้งสองชกต่อยกันอย่างรุนแรง พิณเข้ามาช่วยเพื่อน ก่อนเรื่องจะลุกลามใหญ่โต ทองสา(อมีนา พินิจ) น้องสาวหัวรั้นของศรีไพรที่แอบหลงรักพิณอยู่ออกมาห้ามพี่ชาย ทำให้ศรีไพรรู้สึกเสียหน้า ประกาศว่าจะเอาคืนคนทั้งสองอย่างสาสมเมื่อเดือนมาอยู่กรุงเทพเธอติดต่อกับพิณผ่านทางจดหมายและรายการวิทยุ “เสียงจากแม่มูล” ทำให้ทั้งสองรับรู้ความเป็นไปของกันและกัน ยกเว้นเรื่องเดียวที่เดือนไม่บอกให้พิณรู้ คือลุงกับป้าได้แนะนำเธอให้รู้จักกับ สุดเขต(ศรัณย์ ศิริลักษณ์) ชายหนุ่มฐานะดีมีชาติตระกูล

สุดเขตตกหลุมรักเดือนในทันทีที่ได้พบ เขาเพียรพยายามเอาใจเดือนสารพัด ถึงแม้เขาจะเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ แต่เขาก็แสนจะสุภาพและให้เกียรติเดือนเสมอมา พ่อและแม่บุญธรรมของหญิงสาวพึงพอใจในตัวชายหนุ่มอย่างมาก อีกทั้งสองครอบครัวก็รู้จักชอบพอกันมายาวนาน ในที่สุด พ่อและแม่บุญธรรมก็จัดการให้เดือนได้หมั้นหมายกับสุดเขต

พิณเอาเดโม่เทปคณะแม่มูลลำเพลินมาเสนอขายนายทุนที่กรุงเทพ ก่อนจะแวะมาเยี่ยมเดือนโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า ทำให้เขาได้เห็นภาพบาดตาบาดใจระหว่างเดือนกับสุดเขต เธอสารภาพความจริงกับเขา พิณเห็นแก่อนาคตของเดือนบอกให้เธอลืมเขา และอวยพรให้เธอมีอนาคตที่สดใส ส่วนตัวเขาขอกลับไปครูบ้านนอกจนๆ ตามเดิม เดือนไม่ทันได้อธิบายความจริงให้พิณฟังว่าคนที่เธอรักคือเขา แต่ที่เธอต้องหมั้นหมายกับสุดเขตเพราะขัดผู้ใหญ่ที่มีพระคุณต่อเธอและครอบครัวไม่ได้ เดือนได้แต่เก็บงำเรื่องนี้ไว้ในใจ รอวันเวลาอธิบายความจริงให้พิณเข้าใจ

ขณะเดียวกันศรีไพรก็ทนคณะแม่มูลลำเพลินได้รับความนิยมไม่ได้ เพราะนอกจากแคนจะเป็นศัตรูหัวใจอันดับหนึ่งของเขาแล้ว เขายังมีเบื้องหลังที่โสมมมากกว่านั้น คือการเป็นนายหน้าค้าแรงงานเด็ก และส่งผู้หญิงไปขายตัวที่กรุงเทพ ถ้าคณะแม่มูลลำเพลินได้รับความนิยม ความเสื่อมใสศรัทธาที่ชาวบ้านมีต่อพิณ แคน และคำแปง จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเขา ศรีไพรจึงสั่งให้ ไอ้ดำ(เขาทราย กาแล๊คซี่) ไอ้ขาว(ชูษี เชิญยิ้ม) สองลูกน้องคนสนิทลอบเข้าไปปาระเบิดในงานคอนเสิร์ตคณะแม่มูลลำเพลิน จนทั้งชาวบ้านและ บุญเหลือ(เหลือเฟือ ม๊กจ๊ก) หนึ่งในสองตัวโจ๊กประจำคณะต้องเสียชีวิตลง ส่วน บุญหลาย(ต๋อง ชวนชื่น) ตัวโจ๊กอีกคนบาดเจ็บสาหัส ทำให้พวกชาวบ้านไม่กล้ามาดูการแสดงของคณะแม่มูลลำเพลินอีกต่อไป

เมื่อพิณที่ผิดหวังจากความรักกลับมาเห็นแม่มูลลำเพลินในสภาพที่ยับเยินก็หัวใจแตกสลาย ส่วนแคนที่รู้ว่าทั้งหมดเป็นฝีมือพวกศรีไพร ก็ตามไปเอาเรื่องศรีไพรถึงบ้าน แต่เขาไม่มีหลักฐานเอาผิดศรีไพร ทำได้เพียงแค่ตะบันหน้าศรีไพรให้หายแค้น แต่นั่นกลับทำให้เรื่องราวบานปลายใหญ่โต เมื่อเขาถูกตำรวจลากตัวไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก

เมื่อแคนได้สติกลับมาเห็นสภาพชาวคณะ และคำแปงที่อยู่ในสภาพสิ้นเนื้อประดาตัว ร้องไห้ปริ่มจะขาดใจ เขาก็โทษว่าทั้งหมดเป็นความผิดของตัวเอง แคนตัดสินใจไปเสี่ยงโชคที่กรุงเทพ แม้คำหล้าจะทัดทาน แต่ลูกผู้ชายหัวใจเด็ดเดี่ยวอย่างแคนไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อโชคชะตาง่ายๆ เขาบอกว่าการจากไปครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อลูกแม่มูลทุกคน ทั้งยังสัญญาว่ามีเงินเมื่อไหร่เขาจะกลับมาขอเธอแต่งงานทันที ก่อนจากไปแคนฝากให้พิณช่วยดูแลคำหล้าระหว่างที่เขาไม่อยู่ พิณรับปาก สองหนุ่มสัญญากันอย่างเป็นหมั่นเป็นเหมาะว่าจะช่วยกอบกู้คณะแม่มูลลำเพลินให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งให้ได้

เดือนได้ข่าวแม่มูลลำเพลินถูกปาระเบิดก็ร้อนใจ นึกเป็นห่วงพิณขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก สุดเขตเห็นอาการกระสับกระส่ายของเดือนก็เข้าใจว่าเดือนเป็นห่วงทางบ้าน อาสาขับรถมาส่งเดือน แต่เดือนต้องอยู่กับสุดเขตตลอดเวลา ไม่สามารถปลีกตัวมาหาพิณได้ เธอจึงฝากข่าวผ่านทางคำหล้า นัดเจอเขาที่ริมแม่มูล แต่แล้วพิณก็ไม่มา เดือนตัดสินใจไปหาพิณด้วยตัวเอง แต่พอเห็นพิณอยู่กับทองสาเธอก็รู้สึกผิดหวัง คำหล้าจะไปอธิบายความจริงให้เดือนฟังว่าพิณกับทองสาไม่ได้มีอะไรกัน แต่พิณห้ามไว้ บอกให้เดือนเข้าใจผิดอย่างนี้ดีแล้ว เธอจะได้ตัดใจจากเขาได้ง่ายขึ้น

แคนเดินทางเข้ามาแสวงโชคในเมืองหลวงโดยลำพัง เขาสมัครเป็นนักร้องกับบริษัทแผ่นเสียงหลายแห่งแต่ก็ถูกปฏิเสธ แต่แคนไม่ย่อท้อ เมื่อเงินหมดเขาก็ทำงานก่อสร้างเพื่อหาเงิน ยังชีพ โดยไม่ลืมที่จะเขียนจดหมายถึงคำหล้า โกหกเธอว่ากำลังจะได้เป็นนักร้องดัง เพราะไม่อยากให้เธอเป็นห่วง คำหล้าดีใจจึงแอบไปหาแคน แต่พอรู้ว่าไม่ได้เป็นอย่างที่แคนเขียนเล่าให้จดหมายก็รู้สึกผิดหวัง จึงขอร้องให้กลับบ้านมาช่วยพิณทำวง

พิณคอยอยู่เป็นกำลังใจให้คำแปง เขาขอร้องให้เธอฮึดสู้ ไม่ใช่เพื่อตัวเองแต่เพื่อเด็กๆ ลูกแม่มูลทุกคนที่จะได้ไม่ต้องทิ้งถิ่นเกิด และลืมรากเหง้าของตัวเองไปแสวงโชคในกรุงเทพ คำแปงได้สติ แต่เธอก็ไม่มีกำลังใจทำงานอีกต่อไปแล้ว จนกระทั่ง บัวผัน(พลอยปภัส ธนันต์ชัยกานต์) ลูกศิษย์ที่พิณรักที่สุด และเป็นนักร้องเสียงทองฝ่ายหญิงที่คำแปงหมายหมั้นปั้นมือว่าจะให้ดังเหมือนแคน ถูกพ่อแม่ขายให้ศรีไพรและพวก เมื่อครูตะวันรู้ก็พยายามห้ามปรามจนถูกพวกศรีไพรทำร้ายบาดเจ็บสาหัส หมอสายไหม (มัณฑนา หิมะทองคำ)ที่ครูตะวันแอบรักอยู่เข้ามาช่วยดูแล ทำให้ครูตะวันรู้สึกดีต่อเธอมากขึ้น โดยที่เหมอสายไหมไม่ระแคะระคายเรื่องนี้เลย ขณะเดียวกันพิณก็ตัดสินใจเข้ากรุงเทพเพื่อตามหาลูกศิษย์ตัวน้อย

พิณมาอยู่กรุงเทพกับแคน เมื่อเดือนรู้จึงอาสาช่วยพิณตามหาลูกศิษย์ตามที่ต่างๆ จนความเข้าใจผิดที่มีต่อกันลดลง แปรเปลี่ยนเป็นความโหยหาที่ยากจะพรากจากกัน จนทั้งสองเกือบจะพลาดพลั้งทำเรื่องผิดศีลธรรม ซึ่งนั่นก็มากพอที่จะทำให้สุดเขตรู้ว่าหญิงคนรักของตนมีชายอื่นอยู่ในใจ เขาสกัดกลั้นความเจ็บปวดนี้อยู่ในใจเงียบๆ รอให้เดือนเป็นคนพูดความจริงกับเขา

สุดท้ายพิณก็ตามหาลูกศิษย์ของตัวเองไม่เจอ ความเศร้าเสียใจและความโหยหาที่จำต้องพรากจากหญิงคนรัก ทำให้เขาแต่งเพลง “เสียงจากแม่มูล” ที่บอกเล่าถึงความคิดถึง ห่วงหา ของแม่ที่มีต่อลูก ที่ต้องจำพรากจากกันไปไกลแสนไกล รอวันเวลาให้ลูกกลับมาอีกครั้ง ไม่ต้องมีเงินทอง ไม่ต้องมีชื่อเสียงโด่งดัง แค่ได้เห็นหน้าและรับรู้ว่าลูกเป็นอยู่สุขสบายดีแม่ก็พอใจแล้ว

พิณส่งเพลงนี้ให้แคนที่กำลังจะถอดใจร้องและนำไปเผยแพร่ผ่านทางคลื่นวิทยุเสียงจากแม่มูล ปรากฏว่าเพลงนี้ดังเพียงชั่วข้ามคืน และแคนก็ได้เป็นนักร้องดังสมใจ เขาพยายามเขียนจดหมายติดต่อคำหล้า แต่ศรีไพรที่สนิทกับบุรุษไปรษณีย์แอบขโมยจดหมายแคนไปซ่อน แล้วใช้เรื่องหนี้สินบีบให้พ่อแม่คำหล้ายกลูกสาวให้กับตน คำหล้าที่ขาดการติดต่อกับกับแคนเข้าใจว่าแคนดังแล้วลืมตัว ด้วยความเจียมตัวว่าตัวเองเป็นแค่ดอกหญ้าที่ไม่มีค่าอะไร จึงตัดสินใจแต่งงานกับศรีไพรเพื่อช่วยปลดหนี้ให้พ่อแม่

พิณรู้ว่าศรีไพรอยู่เบื้องหลังการค้ามนุษย์จึงหาหลักฐานเปิดโปง แต่บังเอิญไปเจอจดหมายที่แคนส่งหาคำหล้า เขาบอกเรื่องนี้กับแคน แคนจึงกลับมาขัดขวางงานแต่งของคำหล้า ทำให้ศรีไพรเสียหน้าและโกรธแค้นแคนมากขึ้น และยิ่งเมื่อรู้ว่าบัวผันที่ถูกหลอกพาไปขายที่กรุงเทพหนีรอดออกมาได้ และกำลังจะมาช่วยเป็นพยานให้พิณเปิดโปงธุรกิจการค้ามนุษย์ของเขา ศรีไพรจึงส่งคนไปฆ่าบัวผัน ทั้งพิณและแคนเจ็บแค้นศรีไพรเป็นอย่างมาก แต่ไม่สามารถทำอะไรศรีไพรได้ เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าศรีไพรเป็นคนดี

ต่อมาหมอสายไหมรู้ว่าครูตะวันแอบหลงรักตนอยู่ โดยที่ไม่มีใครคาดคิด เธอก็ตอบตกลงแต่งงานกับเขา ครูตะวันจึงได้เรียนรู้ว่าไม่มีอะไรในโลกที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าเรามีความเพียรและยึดมั่นในคุณงามความดี เขาจึงมีกำลังใจกลับมาพัฒนาการเรียนสอนการสอนแก่เด็กๆ ตามอุดมการณ์ที่วาดไว้ตั้งแต่วัยหนุ่ม โดยมีพิณเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ ทั้งสองช่วยกันสร้าง “วังปลา” ด้วยภูมิปัญญาแบบชาวบ้าน เพื่อให้ปลาใช้เป็นที่สำหรับวางไข่ และเป็นแนวป้องกันไม่ให้พวกเถ้าแก่เส็งแอบเข้ามาดูดทรายในแม่น้ำไปขาย ศรีไพรได้ทีจึงยุยงให้พวกชาวบ้านเสียผลประโยชน์บุกเข้าไปรื้อวังปลา ทำชาวบ้านเริ่มรู้ว่าศรีไพรเป็นคนไม่ดี จึงให้เบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับการตายของบัวผัน ทำให้พิณกับแคนมีหลักฐานเอาผิดศรีไพรในที่สุด

ขณะเดียวกันเดือนที่ได้ยินเสียงเพลงจากแม่มูลก็รู้ว่าพิณแต่งให้ตน เธอจึงโกหกสุดเขตว่าจะกลับมาเยี่ยมแม่ แต่แท้ที่จริงแล้วเธออยากกลับมาหาชายคนรัก สุดเขตรู้ว่ากำลังถูกเดือนโกหก แต่ด้วยความรักที่มีต่อเดือน เขาจึงพาเดือนมาส่งที่บ้าน พอทองสารู้ว่าสุดเขตเป็นคู่หมั้นของเดือน จึงยุยงให้สุดเขตหึงหวงเพื่อจะได้พาเดือนกลับไปกรุงเทพ แต่สุดเขตกลับนัดพิณออกมาเจรจากันตัวต่อตัว ก่อนจะชกต่อยพิณอย่างบ้าคลั่ง แต่ด้วยความเป็นหนุ่มลูกทุ่งพิณสามารถเอาชนะสุดเขตได้อย่างง่ายดาย สุดเขตพ่ายแพ้ต่อพิณทั้งในเชิงรักและหมัดมวย เขายอมจำนนต่อชายหนุ่มตรงหน้า ทั้งยังขอร้องให้พิณดูแลเดือนให้ดี พรุ่งนี้ผู้ใหญ่จะมาจัดงานแต่งงานให้เขากับเดือน ขอให้พิณรีบมาพาเดือนหนีไป เขาอยากเห็นหญิงสาวที่ตนรักมีความสุข

งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เดือนมาขอร้องพิณให้พาเธอหนีไป แต่พิณกลับรู้สึกเห็นใจสุดเขต เขาไม่สามารถทำตามที่ใจปรารถนาได้ จนกระทั่งงานแต่งเริ่มขึ้น ศรีไพรที่รู้ว่าพิณมีหลักฐานว่าเขาเป็นคนฆ่าบัวผันจึงยกคนบุกมาทำลายงานแต่งงาน และจับตัวเดือนไปเป็นตัวประกัน เพื่อแลกกับหลักฐานชิ้นนั้น แต่ทองสาที่รู้เรื่องทั้งหมดเข้ามาช่วยพิณไว้จนตัวตาย ขณะเดียวกันสุดเขตก็ปกป้องเดือนด้วยชีวิต จนทำให้เดือนรู้ว่าเขารักเธอมากแค่ไหน ก่อนที่แคนและชาวคณะแม่มูลลำเพลินจะช่วยกันเปิดโปงแผนการชั่วร้ายของศรีไพร สามหนุ่มประจันหน้ากันกลางสายแม่มูลที่เชี่ยวกราด ทั้งพิณและแคนพลาดท่าเสียทีศรีไพรที่มีอาวุธเหนือกว่า ระหว่างความเป็นความตาย ศรีไพรก็พลาดท่าตกไปวังปลา ก่อนจะถูกสายแม่มูลดูดกลืนร่างหายไป

เมื่อเรื่องร้ายๆ ผ่านไป คำแปงตัดสินใจตั้งคณะแม่มูลลำเพลินขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเธอได้ตระหนักแล้วว่า คณะลำเพลินของเธอไม่ได้เป็นเพียงแค่ความบันเทิงราคาถูก แต่มันเป็นเสมือนความหวัง และอนาคตที่สดใสของพวกเด็กๆ ถึงแม้ตอนแรกจะไม่มีคนฟังลำเพลินของคำแปง แต่เมื่อแคนกลับมา เสียงร้องอันแสนไพเราะเพราะพริ้งของเขาก็ช่วยเรียกชาวบ้านและเด็กรุ่นใหม่ให้หันกลับมาฟังลำเพลิงได้อีกครั้ง

หลังการจมน้ำหายตัวไปของพิน เดือนเศร้าและรอคอยด้วยความหวังว่าพินจะกลับมา คำแปงเตือนสติให้เดือนนึกถึงสิ่งที่ลูกแม่มูลทุกคนต้องหวงแหนรักษาไว้นั่นก็คือความดีงามในจิตใจ เดือนเห็นว่าความรักของเธอกับพิณเป็นเหมือนสายแม่มูลที่ไหลผ่านไป ไม่มีวันหวนกลับมาอีกแล้ว จะหลงเหลือก็เพียงแค่ความทรงจำ จึงตัดสินใจทำสิ่งที่ถูกต้องตามและตามคำขอครั้งสุดท้ายของแม่ด้วยการแต่งงานกับสุดเขต ผู้ชายที่รักเธอและพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเธอ จนเธอสามารถรักเขาตอบได้โดยไม่ยาก และพร้อมจะร่วมชีวิตกับเขาต่อไปอย่างมีความสุข...

.......................................... จบบริบูรณ์ ..........................................

ที่มา http://www.ch7.com/

เรตติ้งมนต์รักแม่น้ำมูล

วันจันทร์ที่     18  เมษายน  2554   เรตติ้ง 10.4
วันอังคารที่    19  เมษายน  2554  เรตติ้ง 10.1

วันจันทร์ที่     25  เมษายน   2554  เรตติ้ง 13.0
วันอังคารที่    26  เมษายน  2554  เรตติ้ง 11.5

วันจันทร์ที่     2  พฤษภาคม  2554  เรตติ้ง 11.4 (เบรค1)
                                                   เรตติ้ง11.6 (เบรค2)
วันอังคารที่     3 พฤษภาคม  2554  เรตติ้ง 11.3

เรตติ้งละคร วนาลี ช่อง3

วนาลี


ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์ –อังคาร เวลา 20.30 น.
นำแสดงโดย : ป๋อ ณัฐวุฒิ, มิว ลักษณ์นารา, เจมส์ เรืองศักดิ์, รถเมล์ คะนึงนิจ
กำกับการแสดงโดย : ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล


วิชชุดา วิภาดา (วิช) สาวน้อยวัยสิบแปดน้องคนสุดท้องของครอบครัว ด้วยความที่พ่อแม่ตายตั้งแต่เธอยังเด็ก พันตำรวจโทวิชาติ (ใหญ่) และปลัดวีรชาติ (กลาง) พี่ชายทั้งสองคนจึงเป็นคนเลี้ยงดูเธอมา กว่าวิชาติกับวีรชาติจะรู้ว่าได้เลี้ยงน้องสาวกลายเป็นทะโมนแก่นแก้วรักอิสระจนพี่ๆ ควบคุมไม่ได้ก็สายไปแล้ว และยิ่งวิชชุดาคบหาสนิทสนมกับ ฤทธิรงค์ หนุ่มเจ้าสำราญจอมเจ้าชู้  ก็ยิ่งทำให้วิชาติเป็นห่วงหนัก  วิชาติได้โอกาสแก้ปัญหาเมื่อรู้ว่าเพื่อนรัก  พันตำรวจตรีโสรัตน์  พิพรรธ แอบหลงรักวิชชุดาอยู่ จึงบีบบังคับให้วิชชุดาแต่งงานกับโสรัตน์   โดยมี  สอางทิพย์  คู่รักคอยเป็นกองหนุน   แต่วิชชุดาไม่ยอมตกลงด้วย  แต่งงานกับจอมโจรอาจจะดีกว่าตำรวจหน้าแหยอย่างโสรัตน์
             วิชาติกับสอางทิพย์หาวิธีต่างๆเพื่อให้โสรัตน์ชนะใจวิชชุดา    แต่วิชชุดากลับตอกกลับด้วยการประกาศว่าเป็นคู่รักกับฤทธิรงค์    เมื่อถูกพี่ชายบีบบังคับมากเข้าวิชชุดาจึงหนีไปอยู่กับ    คุณหญิงสมสวาท  เทพวงศ์ คุณป้าของเธอที่เมืองนนท์   วิชชุดาออกไปยิงนกตกปลากับ  เด็กเด๋อ   ลูกสมุน และยิงลูกหินใส่  ร้อยตำรวจเอกศยาม พิพรรธ (นายมืด)    ที่เดินหลงเข้ามาอย่างไม่ได้ตั้งใจ    ศยามเห็นความกล้าก๋ากั๋นของวิชชุดาที่ไม่กลัวอะไรเลย  จึงหลอกให้ผวาเล่นว่าตัวเองเป็นเสือมืดมาดูลาดเลาว่าปล้นบ้านไหนดี   วิชชุดากลัวแต่ทำเป็นใจกล้าขู่ว่าอย่าได้คิดปล้นบ้านคุณหญิงป้าเป็นอันขาด  เพราะคุณหญิงมีหลานเป็นนายตำรวจใหญ่ ศยามทำเป็นกลัวรับปากว่าจะกลับเนื้อกลับตัวใหม่
       วันรุ่งขึ้นวิชชุดาตกใจแทบช็อค!!!เมื่อรู้ว่าโจรปล้นและทำร้ายคุณหญิงป้า   วิชชุดามั่นใจว่าโจรที่ปล้นคือ “เสือมืด”  เธอแค้นใจที่เสือมืดไม่รักษาคำพูด  แค้นนี้ต้องชำระอย่างแน่นอน โสรัตน์ขอร้องให้ศยามไปสารภาพความจริงกับวิชชุดาว่าไม่ใช่โจร ก่อนที่เรื่องจะไปกันใหญ่  แต่วิชาติกลับห้ามไว้  วิชาติเกิดความคิดที่จะดัดนิสัยและทำให้โสรัตน์สมหวัง  โดยให้ศยามสวมรอยเป็นเสือมืดต่อไปและให้หาจังหวะลักพาตัววิชชุดาไป จากนั้นจัดฉากให้โสรัตน์ไปช่วยได้ทัน เมื่อใดที่วิชชุดาเห็นโสรัตน์เป็นวีรบุรุษเอาชนะโจรได้ วิชชุดาจะต้องยอมแต่งงานด้วยอย่างแน่นอน   วิชาติเรียกตัววีรชาติลงมาด่วน  โสรัตน์แหยงๆ   กลัวความแตกจะทำให้วิชชุดาเกลียดขี้หน้าหนักกว่าเดิม   ศยามเองไม่เห็นด้วยแต่จำใจร่วมขบวนการเพราะเกรงใจวิชาตินายตำรวจรุ่นพี่   ชายหนุ่มทั้งสี่สุมหัววางแผนจนลงตัว จะหลอกให้วิชชุดาไปนครสวรรค์แล้วให้ถูกจับตัวไว้ที่นั่น   โดยให้นมคล้ามของศยามอยู่ด้วยกันข้อครหา สามตำรวจใหญ่หนึ่งปลัดวางตำแหน่งเป็นเดิมพัน งานนี้รับรองสำเร็จได้อย่างง่ายดาย
สอางทิพย์ไม่เห็นด้วยกับแผนการของวิชาติจึงขอให้คุณหญิงป้าช่วยเกลี้ยกล่อมวิชชุดาให้รับรักโสรัตน์ คุณหญิงป้าเตือนไม่ให้วิชชุดามองคนที่ภายนอก ถ้ายังไม่รู้จักนิสัยใจคอใครดีพอ ก็น่าจะลองศึกษาไว้ก่อน“เพชรอาจจะตกอยู่ในตมได้ฉันใด...ดวงใจที่ดีงามน่านับถือก็อาจแฝงอยู่ในรูปชั่วได้ฉันนั้น” แต่วิชชุดายังดื้อไม่ฟังใคร วิชชุดาถูกกดดันเรื่องโสรัตน์จนทนไม่ไหว ประกอบกับได้ข่าวมีโจรปล้นอาละวาดที่นครสวรรค์จึงคิดว่าเป็นเสือมืดแน่ จึงแอบหนีวิชาติไปนครสวรรค์โดยหนีบเด็กเด๋อไปเป็นเพื่อนด้วย โดยไม่รู้ว่าเข้าทางของวิชาติไปแล้ว 
                 ศยามไปลา  สุดถนอม ธนรักษ์ (แหวว) คู่รักที่กำลังจะหมั้นหมายกันไม่ช้า  โดยพาโสรัตน์ไปแนะนำตัวด้วย   คุณหลวงและคุณหญิงพิศาลพ่อแม่ของสุดถนอมเห็นดีเห็นงามที่สุดถนอมคบหากับศยาม   แต่เมื่อได้เห็นโสรัตน์ที่มีตำแหน่งใหญ่โตกว่า    คุณหญิงพิศาลก็เริ่มลังเลและหยอดให้โสรัตน์กลับมาเยี่ยมเยียนกันบ่อยๆ  ศยามพาซื่อขอร้องให้โสรัตน์หมั่นมาดูแลคู่รักแทนตน   ขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันชื่นมื่น สุมาน ก็เข้ามาทำให้วงแตก ศยามเห็นหน้าคู่รักเก่าก็รีบลากลับทันที    สุมานตามง้องอนขอคืนดีกับศยาม ทั้งที่สุมานเป็นฝ่ายทิ้งศยามไปเมื่อได้เจอผู้ชายที่ฐานะดีกว่า   ศยามไม่แยแสสุมานทำให้เธอแค้นใจจะแย่งศยามคืนจากสุดถนอมให้ได้
                สดสวย    ภรรยาของวีรชาติมาดักพาตัววิชชุดากับเด็กเด๋อไปที่บ้านพัก   เพราะวีรชาติโทรเลขมาบอกล่วงหน้า    สดสวยถ่วงเวลาไม่ให้วิชชุดาหนีไปไหนรอจนวีรชาติกับศยามตามมาทัน    ศยามจะจับตัววิชชุดาได้หลายครั้งแต่ต้องพลาดไป       จนวิชชุดาได้เบาะแสที่ถูกกุขึ้นจากวีรชาติ     จึงไปตามหาเสือมืดจนพลาดท่าถูกศยามจับปิดปากมัดตัวขึ้นรถไป   โดยไม่รู้ว่าเด็กเด๋อกระโดดเกาะติดรถไปด้วย   วิชชุดาโกรธควันออกหูที่รู้ว่าเสือมืดจับตัวมาเพื่อเรียกค่าไถ่  เสือมืดทำเหี้ยมข่มขู่ให้วิชชุดาเชื่อฟังไม่งั้นจะจัดการเชือดเด็กเด๋อให้ดู  จนนมคล้ามที่สวมบทบาทเป็นแม่เสือมืดต้องคอยห้ามปราม  วิชชุดาค่อยอุ่นใจที่มีนมคล้ามและเด็กเด๋ออยู่เป็นเพื่อน
            วิชาติให้โสรัตน์เตรียมตัวไปช่วยวิชชุดาตามแผน  แต่ต้องรอให้วิชชุดาถูกจับซักสองสามวันจะได้สมจริงหน่อย ระหว่างนี้โสรัตน์จึงไปเยี่ยมสุดถนอมแทนศยาม  สุมานรู้เห็นว่าสุดถนอมแอบปลื้มโสรัตน์ คุณหญิงพิศาลก็เล็งๆโสรัตน์เป็นลูกเขยแทนศยาม สุมานมีโอกาสก็ยุยงสุดถนอมและหาทางให้โสรัตน์ได้ใกล้ชิดสุดถนอม  จนโสรัตน์เริ่มมีใจเอียงเอนกับสุดถนอม   เมื่อได้เวลาตามไปช่วยวิชชุดา  ก็มีคำสั่งให้โสรัตน์ไปช่วยราชการที่ชุมพร วิชาติเครียดที่วิชชุดาต้องถูกจับตัวไว้โดยไม่มีกำหนด   สอางทิพย์ซ้ำเติมคู่รักที่คิดแผนการพิศดารพันลึกนี้ขึ้น
                วิชชุดาไม่ยอมแพ้เสือมืดง่ายๆ เมื่อเสือมืดไม่อยู่ก็แอบไปไปค้นหาปืนในห้องเสือมืดมาป้องกันตัว วิชชุดาพบทั้งปืนทั้งรูปถ่ายของสุดถนอม   วิชชุดาเริ่มสงสัยตงิดๆว่าเสือมืดเป็นใคร   แอบซักถามนมคล้ามๆได้แต่โกหกแบบไม่เนียน   วิชชุดาได้โอกาสพาเด็กเด๋อหนีไป  ศยามจับตัวไว้ทันแย่งปืนกลับมาได้   ศยามปวดหัวที่รู้ว่าต้องกักตัววิชชุดาไว้อีกนาน ขณะเดียวกันก็ต้องตามล่าไอ้มหาโจรอย่าง เสือสอน อีก วิชาติตามมาที่นครสวรรค์เมื่อรู้ว่าศยามจะล้มเลิกแผน  วิชาติรับปากจะช่วยตามล่าเสือสอนด้วย  วิชชุดาใช้ไม้อ่อนเกลี้ยกล่อมนมคล้ามให้เตือนสติเสือมืดยอมมอบตัว นมคล้ามได้แต่เล่นละครบีบน้ำตาว่าลูกคนนี้กู่ไม่กลับแล้ว วิชชุดาโกรธที่เสือมืดทำให้แม่น้ำตาตก  จึงสั่งสอนจริยธรรมชุดใหญ่ให้กับศยาม   ศยามได้แต่ขำอยู่ในใจ...แต่ทำวางมาดเสืออวดผลงานที่เคยปล้นมา
ศยามกับวิชาติได้ข่าวเสือสอนจะปล้นครั้งใหญ่บ้านเศรษฐีปากน้ำโพจึงตามไปดักจับ ศยามถูกยิงบาดเจ็บหนีกลับกระท่อม วิชชุดาได้โอกาสหนีออกมากับเด็กเด๋อ  แต่มโนธรรมทำให้กลับมาดูแลพยาบาลศยามจนหายดี   ทำให้ศยามซาบซึ้งกับน้ำใจวิชชุดา  โดยไม่รู้ตัวความผูกพันเริ่มก่อตัว ศยามต้องเรียกสติตัวเองไม่ให้ลืมว่าวิชชุดาเป็นคนที่โสรัตน์รัก   วิชชุดาก็ต้องเตือนตัวเองว่ากำลังให้ใจกับโจรชั่วอยู่ 
                คุณหลวงพิศาลธนรักษ์พาครอบครัวมาเที่ยวนครสวรรค์ โดยมีสุมานตามมาด้วย   วีรชาติกับสดสวยคอยดูแลต้อนรับและพาเที่ยว  สุมานดีใจที่ได้พบศยาม พยายามเอาชนะหัวใจศยามอีกครั้ง ยุยงให้สุดถนอมบอกความจริงที่หลงรักโสรัตน์ไปแล้ว         แต่สุดถนอมไม่กล้า      ศยามกับสุดถนอมต่างรู้สึกว่าต่างเปลี่ยนไป ใจศยามอยู่ที่ป่าที่มีวิชชุดาอยู่   วิชชุดาเองก็รอเสือมืดอยู่   ทั้งสองเริ่มใกล้ชิดแบ่งปันเรื่องของกันและกัน  ศยามจำใจโกหกปั้นเรื่องไปเรื่อยว่า มีพี่ชายฝาแฝดที่ได้ดิบได้ดีผิดกับตัวเองที่ตกต่ำมาเป็นโจร ทำให้วิชชุดาเสนอช่วยเหลือจะฝากงานให้   ศยามรับปากจะกลับตัวในอีกไม่นาน   นับวันศยามก็เห็นหัวใจที่งดงามของวิชชุดา
                โสรัตน์ขอลาราชการได้รีบตามมาที่นครสวรรค์เพื่อมาดูวิชชุดา วิชชุดากับเด็กเด๋อมาเล่นน้ำกัน วิชชุดากระโดดลงน้ำแล้วไม่โผล่ขึ้นมาเลย โสรัตน์จะกระโดดน้ำไปช่วยแต่ถูกศยามชิงตัดหน้าโดดไปช่วยวิชชุดาได้ก่อน แต่หาตัวไม่เจอ วิชชุดาโผล่ขึ้นจากน้ำอีกที่ ศยามตามจับตัววิชชุดามาลงโทษ ศยามตกใจที่เห็นโสรัตน์แอบมองอยู่กลัวโสรัตน์เข้าใจผิด  ศยามจึงต้องกลับมาเป็นเสือมืดผู้แข็งกระด้างเตรียมออกปล้นอีกครั้ง  วิชชุดาโกรธที่ศยามกลับคำไม่ยอมพูดกับศยามอีก    ศยามไม่มีเวลาปรับความเข้าใจกับวิชชุดาเพราะต้องรีบไปจับเสือสอน    ศยามกับวิชาติเข้าลุยจับเสือสอนกับลูกน้องได้   แต่กลับพบว่าเป็นเสือสอนตัวปลอม  เสือสอนเปลี่ยนชุดเป็นตำรวจลอบหนีออกไปก่อน  ศยามเค้นคอจนรู้ว่าเสือสอนมุ่งไปกบดานแถวกระท่อมเสือมืด ศยามรีบกลับไปหาวิชชุดาทันที
               ศยามกลับไปเจอแต่นมคล้ามกับเด็กเด๋อที่ถูกมัดปิดปากอยู่ ศยามแทบคลั่งเมื่อรู้ว่าเสือสอนจับตัววิชชุดาไปแล้ว  ศยามวิ่งตามจนทันเสือสอนแต่ยังทำอะไรไม่ได้เลยต้องยอมขอเป็นลูกน้องเสือสอนไป วิชชุดายิ่งโกรธเกลียดเสือมืดแต่แล้วก็รู้ว่า     เสือมืดพยายามปกป้องตัวเองด้วยการบอกว่าเธอเป็นน้องสาว    วิชาติ โสรัตน์ และวีรชาติตามรอยจนเจอเสือสอน   ทั้งสองปะทะกัน  ศยามเอาตัวปกป้องวิชชุดาจนถูกยิง  เสือสอนถูกจับได้ วิชาติรีบพาวิชชุดาไปโดยวิชชุดาไม่ทันเห็นว่าเสือมืดตายหรือเปล่า แผนการของวิชาติล้มเหลว เพราะเสือมืดกลับเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยวิชชุดาแทนที่จะเป็นโสรัตน์     ทุกอย่างผิดแผนไปหมด
                วิชชุดาแปลกใจที่ไม่มีใครพูดถึงเสือมืด ฤทธิรงค์ช่วยสืบหาแต่ก็ไม่มีข้อมูล วิชชุดาเจอศยามเข้าโดยบังเอิญในงานเลี้ยงของกรมตำรวจ ศยามกลับทำหน้าตายบอกว่าชื่อศิระ (มอด) เป็นพี่ชายฝาแฝดของเสือมืด วิชชุดางุนงงสงสัยแต่แล้วเมื่อเห็นศยามอยู่กับสุดถนอม  วิชชุดาจำรูปสุดถนอมที่อยู่ในห้องเสือมืดได้ วิชชุดาเริ่มปะติปะต่อเรื่องได้   วิชชุดาโกรธมากที่ถูกทุกคนหลอก   จึงตลบหลังกลับประกาศยอมแต่งงานกับโสรัตน์ ทั้งที่รู้จากสุมานว่าโสรัตน์กับสุดถนอมแอบรักกันอยู่   ฤทธิรงค์อกหักอย่างแรง  โสรัตน์ต้องรีบสารภาพกับศยามและวิชาติว่าตกหลุมรักสุดถนอมไปแล้ว    ศยามกลับไม่โกรธโสรัตน์เพราะตัวเองก็มอบหัวใจให้วิชชุดาไปเช่นกัน  
               วิชาติปวดหัวไม่รู้จะแก้ไขเรื่องนี้ยังไงดี คู่รักผิดฝาผิดตัวไปหมด วิชชุดาดื้อแพ่งยืนยันที่จะแต่งงานกับโสรัตน์คนเดียว ไม่งั้นชาตินี้จะไม่แต่งงานกับใคร ศยามอกหักเสียใจขอย้ายไปอยู่จังหวัดชายแดน วิชชุดาแอบปวดใจแต่ก็ยังมีทิฐิไม่ยอมเปลี่ยนใจ วิชาติกับวีรชาติสุมหัวคิดแผนการกันอีกครั้ง ยอมจัดงานแต่งงานให้กับวิชชุดาอย่างเร่งด่วน    วิชชุดาตกใจที่พี่ชายทั้งสองเอาจริง  เธอรีบหนีก่อนที่งานแต่งงานจะเริ่มขึ้น แค่ก้าวออกจากบ้านวิชชุดาก็ถูกรวบตัวมัดมือปิดตาอุ้มขึ้นรถไป และแล้ววิชชุดาก็รู้ว่าได้ถูกเสือมืดจับตัวมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้จับมาเพื่อคนอื่น  แต่เพื่อให้ได้หัวใจของวิชชุดากลับคืนมา  วิชชุดาสิ้นฤทธิ์ถูกเสือมืดปราบได้ในที่สุดที่กระท่อมกลางป่าที่ชื่อ  “วนาลี”  

ที่มา วนาลี

เรตติ้ง วนาลี

วันจันทร์ที่     18  เมษายน  2554   เรตติ้ง 5.1
วันอังคารที่    19  เมษายน  2554  เรตติ้ง 5.7

วันจันทร์ที่     25  เมษายน   2554  เรตติ้ง 4.7
วันอังคารที่    26  เมษายน  2554  เรตติ้ง 4.4

วันจันทร์ที่     2  พฤษภาคม  2554  เรตติ้ง 5.1(เบรค1)
                                                      เรตติ้ง 5.0(เบรค2)
วันอังคารที่     3 พฤษภาคม  2554  เรตติ้ง 5.2

เรตติ้งละคร ลุย ช่อง 7

ละครลุย

ออกอากาศ
ละครหลังข่าว พุธ - พฤหัสบดี 20.25 น.

บทประพันธ์
เสนีย์ บุษปะเกศ

บทโทรทัศน์
คฑาหัสต์ บุษปะเกศ

กำกับการแสดง"
นนทนันท์ สังข์สวัสดิ์ / ผู้ช่วยผู้กำกับ: วิชัย นิ่มสกุล

ผู้ผลิต
ดีด้า วีดีโอ โปรดักชั่น จำกัด

รายชื่อนักแสดง

ชื่อ - นามสกุล                                      รับบทเป็น
วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ ลุย หล่มสัก
ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ สร้อยคีรี
จีรนันท์ มะโนแจ่ม ไทรงาม
พูลภัทร อัตถปัญญาพล บอย
ปัณฑิตา ภูวิจารย์ เคาวเวลล์ น็อท
เขตต์ ฐานทัพ หมอองศา
ธันย์ชนก ฤทธินาคา ประดู่
แพร เอมเมอรี่ (แพร) แวววัลย์
อคัมย์สิริ สุวรรณศุข กำนันบุปผา
ภาณุ สุวรรณโณ อัสนี
มรกต กิตติสาระ ฟางแก้ว
พีรวิชญ์ บุนนาค เมธา
ดนัย สมุทรโคจร เดือน แรมกล้า

เรื่องย่อ ละครลุย



ลุย หล่มสัก (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์)
เป็นเด็กกำพร้าเติบโตที่หล่มสักโดยมีพระอาจารย์รูปหนึ่งเลี้ยงดู ชีวิตเด็กวัดของลุยผกผันเมื่อผู้มีอิทธิพลในทางนักเลงถูกชะตาจึงขอไปเลี้ยง พระอาจารย์กำชับกับผู้มีอิทธิพลท่านนั้นว่า...ดวงลุยความตายขึ้นอยู่ในมือเต็มพรืดไปหมด อบรมให้ดีก็จะดี แต่ถ้าร้ายจะร้ายยิ่งกว่ามหาโจร

แต่ดูเหมือนว่าการจะอยู่ในเส้นทางชีวิตคนดีของลุยนั้นยากยิ่ง เพราะพ่อบุญธรรมของเขาทำงานให้กับองค์การลับซึ่งทำงานผิดกฏหมาย ลุยเติบโตขึ้นในสิ่งแวดล้อมของอาชญากร...

หลายปีผ่านไป ลุยกลายเป็นหนุ่มรูปร่างบึกบึนแข็งแรงสมชายชาตรี เมื่ออายุ 21 ปีแข่งขันชกมวยชิงรางวัล แรงพลังของเขาทำให้คู่ชกบาดเจ็บถึงขั้นเสียชีวิต นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผู้คนในแถบนั้นต่างพากันโจษจันชื่อ ลุย หล่มสัก

ลุยมีคนรักชื่อ ไทรงาม (จีรนันท์ มะโนแจ่ม) เป็นลูกสาวร้านขายอาหารในตลาด แต่เธอถูกบังคับให้แต่งงานกับลูกชายเจ้าของโรงเลื่อย ลุยบุกเข้าไปฉุดเจ้าสาวหนีในวันแต่งไปใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน ความรักของลุยที่มีให้ไทรงามไม่เคยจืดจาง มีเพียงเรื่องงานเท่านั้นที่เขาขอร้องไม่ให้หญิงสาวก้าวก่าย ไทรงามไม่เคยรู้ว่าลุยทำงานอะไร รู้แต่เพียงว่าลุยทำงานให้กับพ่อผู้มีพระคุณ และการทำงานแต่ละครั้ง ลุยได้เงินกลับมาทีคราวละมากๆ

วันหนึ่งเกิดเรื่องร้ายขึ้นเมื่อพ่อของลุยถูกหักหลังถูกกลุ่มโจรฆ่าตาย ความแค้นทำให้ลุยเกรี้ยวกราด ลุยบุกเผาทำลายล้างพวกกลุ่มโจรที่ฆ่าพ่อจนราบคาบ แล้วพาไทรงามอพยพไปอยู่กับ กริช ลมกรด (อนุสรณ์ เตชะปัญญา) นายใหญ่ของพ่อ

กริช ลมกรด เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งองค์การที่พ่อเขาเคยทำงานให้ ทำเรื่องผิดกฏหมายทั้งค้าอาวุธเถื่อน สินค้าเถื่อนทุกชนิด รวมถึงของหนีภาษี ยาเสพติด ที่สำคัญ องค์การนี้รับจ้างฆ่าคน !

กริชชอบใจในฝีมือยิงปืนของลุยที่แม่นราวจับวาง ตำแหน่งของลุยเมื่อมาอยู่กับกริชจึงเป็น “มือปกาสิต” ซึ่งก็คือ “มือปืนอาชีพ” นั่นเอง

องค์การยังมีผู้ร่วมก่อตั้งอีก 4 คนคือ
ทองเพชร เหล็กกล้า (ทองขาว ภัทรโชคชัย)
เทียว สิบทิศ (เบคิม ฤทธิ์)
ศักดา ปาฏิหาริย์ (ประกาศิต โบสุวรรณ)
และ ปกาศิต จอมพลัง (โอลิเวอร์ บีเวอร์) จอมบงการหัวหน้าใหญ่

ลุยทำงานให้กับองค์การอย่างดีเสมอมา ที่องค์การลุยมีโอกาสพบกับ สร้อยคีรี (ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์) อดีตคนรักเก่าซึ่งปัจจุบันเป็นถึงกลุ่มผู้นำหญิงคนหนึ่ง ความรักในอดีตไม่สมหวังเพราะลุยรู้สึกตัวด้อยค่าจึงปล่อยให้สร้อยคีรีชอบพอกับเพื่อนรักอีกคนหนึ่งของเขา ทันทีที่พบหน้ากันลุยกับสร้อยคีรีตระหนักว่ายังคงมีความรักและผูกพันระหว่างกันเพียงใด สร้อยคีรีแอบช่วยเหลือลุยในหลายเรื่อง ไทรงามเองก็สังเกตเห็นและนึกไม่สบายใจอยู่บ้าง เพราะเคยรู้ว่าสองคนนี้รักกันมากเพียงใด หากแต่ด้วยความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ลุยกับสร้อยคีรีจึงตกลงจะเป็นเพียงเพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น

ผลงานและความจงรักภักดีของลุยต่อองค์การนับว่าน่าพอใจ แต่เมื่อลุยได้รู้ว่าไทรงามตั้งท้อง เขาเริ่มคิดอยากกลับตัวเป็นคนดีอยากถอนตัว ยิ่งเมื่อได้เห็นหน้า ทอม (ด.ช.เขมะ วิถี) ลูกชายสุดที่รัก ลุยก็ยิ่งมั่นใจว่าเขาต้องการวางมือจากอาชีพนี้โดยเร็ว แต่เขาก็ถูกนายทั้งหลายต่อรองเรื่อยมา พร้อมๆ กับสร้อยคีรีเองก็เฝ้าเตือนเขาไม่ให้แสดงตัวว่าจะทำตัวออกห่างองค์การนัก เพราะเธอรู้ว่าลุยจะต้องได้รับอันตรายแน่นอน

จนทอมอายุได้ 5 ขวบ ลุยมีโอกาสช่วยเหลือ แวววัลย์ (แพร เอมเมอรี่) เด็กสาววัยรุ่นกำพร้าใจแตกจากเงื้อมือของอันธพาล แวววัลย์มีอดีตที่ไม่น่าจดจำ พ่อแม่ของเธอแยกทางกัน แม่หนีไปกับชู้หนุ่มคนใหม่ ส่วนพ่อถูกฆ่าตายจากการเข้าสู่วงการเมืองได้ไม่นาน แวววัลย์หลงรักลุยและชื่นชมมากเข้ามาเป็นเพื่อนเล่นกับ ทอม อยู่บ่อยๆ

ตอนแรกลุยไม่สบายใจที่แวววัลย์เข้ามาสนิทสนมเพราะกลัวไทรงามไม่สบายใจ แต่เมื่อทราบถึงอดีตของแวววัลย์ ลุยถึงกับต้องผงะ เพราะว่าแท้ที่จริงแล้วแวววัลย์เป็นบุตรสาวของเหยื่อกระสุนของเขาในอดีตในยุคแรกๆ ที่เริ่มทำงานให้กับองค์กร ทำให้ลุยรู้สึกผิดมากยิ่งขึ้นเมตตาแวววัลย์เหมือนเป็นพี่ชายคนหนึ่ง ซึ่งแวววัลย์เข้าใจดีและไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้ เธอเข้ามาอยู่เป็นเหมือนคนในครอบครัวของลุย เป็นพี่สาวของทอม

ลุยไม่อยากขัดแย้งกับนายใหญ่ขององค์การ เขาจำต้องยอมรับงานฆ่านักการเมืองทุจริตคนหนึ่งจากองค์การ แต่งานนี้เองที่ลุยต้องเสียใจมากที่สุด เพราะเขาพลั้งมือลั่นกระสุนใส่เด็กสาวคนหนึ่งที่นักการเมืองคนนี้แอบล่อลวงมาจากผับ และทันทีที่พลิกร่างเด็กสาวคนนี้ขึ้นมา กลับกลายเป็น แวววัลย์ ที่เผลอเข้ามาอยู่ในที่เกิดเหตุโดยไม่รู้ตัว !

ลุยแทบคลั่งด้วยความเสียใจ...เขาไม่ตั้งใจจะดับชีวิตเด็กสาวคนที่ตัวเองฆ่าพ่อเธอเลย ลุยรู้สึกผิดในใจอย่างมาก เหตุการณ์นี้ทำให้เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะวางมือโดยเด็ดขาด เขาทำจดหมายแจ้งองค์การว่าต้องการลาออกและสัญญาว่าจะเก็บรักษาความลับทุกอย่างขององค์การไว้ แต่กริชไม่สนับสนุนการตัดสินใจของลุยเพราะรู้ดีว่าองค์การไม่เคยปล่อยให้ใครเลิกอาชีพนี้ การออกจากองค์การทำได้เพียงสถานเดียวคือ..จบชีวิต !

กริช กับ เดือน แรมกล้า (ดนัย สมุทรโคจร) เพื่อนรักของลุยและ สร้อยคีรี พยายามคัดค้าน แต่ลุยตัดสินใจแน่วแน่ เขาพาเมียและลูกหนีไปประจวบเพื่อสร้างชีวิตใหม่ด้วยกัน โดยความช่วยเหลือของ สร้อยคีรี ที่หลอกล่อจนเหล่าเจ้านายขององค์การตายใจ ปล่อยให้ลุยหนีไปได้อย่างหวุดหวิด

เมื่อลุยหนีไป ปกาศิต จอมพลัง สั่งให้ลูกน้องในองค์การออกล่าตัวพร้อมๆ กับจับตัวเดือนเพื่อนรักของลุยมาเพราะเชื่อว่าเดือนรู้ว่าลุยหนีไปอยู่ที่ไหน เดือนถูกซ้อมอาการสาหัสแต่เพราะความรักเพื่อนทำให้เดือนยอมทนเจ็บปิดปากเงียบ ปกาศิตโกรธมากจะเล่นงานเดือนถึงตาย แต่ลูกน้องคนหนึ่งของปกาศิตบังเอิญคุยกับบอย (ด.ช.มณฑล สุรวิทย์ธรรมะ – ตอนเด็ก / พลูภัทร อัตถปัญญาพล - ตอนโต) แล้วได้ข้อมูลว่า คนที่มารับทอมลูกของลุยคือ ไทรงาม และ ย้อย ศรีไทย เดือนจึงถูกปล่อยตัว และเป้าหมายของปกาศิตเปลี่ยนเป็นย้อยทันที

ย้อยเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่ลุยไว้ใจ เขากับเดือนเป็นเพียง 2 คนที่รู้ว่าลุยหนีไปอยู่ที่ไหน เงินจากองค์การไม่สามารถทำให้ย้อยพูดถึงลุยได้ การใช้กำลังก็ไม่ได้ผล แต่การขู่ฆ่าเมียรักทำให้ย้อยจำต้องสารภาพหมดเปลือก !

แคล้ว ถูกส่งไปเก็บลุยที่ประจวบฯ แต่ด้วยฝีมือของลุยที่เหนือชั้นกว่าทำให้เขารอดและแคล้วกลายเป็นศพเสียเอง ก่อนตายลุยเค้นความจริงจากแคล้วแล้วก็ต้องแค้นใจอย่างมากเมื่อแคล้วกลับสารภาพว่าคนที่บอกที่อยู่ของลุยคือ เดือน แรมกล้า เพื่อนรักของเขา !

ความจริงผิดๆ ที่แคล้วพูดส่งเดชทำให้ลุยคิดว่าเดือนเป็นเพื่อนทรยศ ลุยรีบพาลูกเมียหนีไปชุมพร และวันรุ่งขึ้นก็ขึ้นเหนือเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยเพื่อให้องค์การไขว้เขว ชีวิตสงบสุขอย่างที่ลุยต้องการดูจะไกลห่างเสียแล้ว

ปกาศิตหงุดหงิดใจอย่างมากที่ลุยรอดไปได้ เขาสั่งให้กริชไปจัดการลุยด้วยตัวเอง แต่กริชไม่ทำตาม ปกาศิตโกรธมาก ถ้าไม่ติดเรื่องผลประโยชน์ที่ต้องพึ่งพากันปกาศิตคงฆ่ากริชไปแล้ว
แต่เมื่อทำไม่ได้ ปกาศิตจึงเปลี่ยนเป็นเนรเทศกริชไปประจำการสาขาองค์การที่ฮ่องกงแทน

ก่อนไปต่างประเทศกริชชวนเดือนไปตามหาลุยเพื่อจะเตือนเขา บอยคิดถึงทอมจึงขอตามพ่อไปด้วย กลุ่มของกริชคลาดกับลุยไปนิดเดียว คนที่ตามลุยเจอกลับเป็นคนของ เทียว สิบทิศ !

เทียวให้คนตามกริชมาตั้งแต่กรุงเทพฯ เพราะเชื่อว่ากริชต้องรู้ที่ซ่อนของลุย แม้กลุ่มของกริชจะคลาดกับลุย แต่ลูกน้องของเทียวปะทะกับลุยแบบเต็มๆ อดีตมือสังหารอย่างลุยเป็นฝ่ายชนะ ลุยตัดสินใจว่าเมื่อภาคใต้ไม่ปลอดภัย เขาจะย้ายไปทางเหนือแทน...

ลุยพาครอบครัวมาลงหลักปักฐานที่จอมบึง ราชบุรี โดยความช่วยเหลือจาก บุปผา (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) กำนันหญิงกร้าว...เพื่อนเรียนของไทรงาม บุปผาช่วยเหลือทั้งเรื่องที่อยู่และที่ทางทำมาหากินให้กับทั้งคู่ หลายเดือนแล้วที่ไม่มีคนขององค์การมาตามล่า พวกเขาอยู่กันอย่างสุขใจ ลุยทำไร่ทำสวน เลี้ยงม้า ทำตัวเป็นชาวไร่เพื่อไม่ให้ชีวิตว่างโดยเปล่าประโยชน์

แต่เมื่ออันตรายจากองค์การทุเลาเบาบางไป ชีวิตลุยกลับหนีไม่พ้นเรื่องผู้หญิงเข้ามาผูกพัน ด้วยความแข็งแกร่งเกินหญิงของกำนันบุปผา ทำให้เธอเริ่มระหองระแหงกับ อัสนี (ภาณุ สุวรรณโณ) หนุ่มชาวบ้านที่ชอบพอกันมานานแล้ว อัสนีเป็นเหมือนหนุ่มที่ชีวิตพบแต่ความล้มเหลว ซึ่งต่างจากแฟนสาวโดยสิ้นเชิง ลุยเห็นปัญหานี้จึงพยายามช่วยเหลือให้ทั้งสองกลับมาคืนดีกัน แต่กาลกลับทำให้อัสนีเข้าใจผิด ตั้งตัวเป็นศัตรูกับลุยอย่างเปิดเผย...แม้บุปผาจะอธิบายยังไงอัสนีก็ไม่ฟัง

ครอบครัวลุยมีสมาชิกเพิ่มมาอีก 1 คนคือ ประดู่ (ธันย์ชนก ฤทธินาคา) เด็กสาวกำพร้าที่มาอ้อนวอนขออยู่ด้วย ประดู่พูดได้แต่ไม่มีเสียงฟังทุกอย่างเข้าใจ เด็กสาวขยันช่วยเหลืองานบ้านงานเรือนทุกอย่าง และเป็นเพื่อนเล่นกับทอมได้เป็นอย่างดี

ลุยบริจาคเงินจำนวนหนึ่งสร้างวัด โรงเรียน โรงพักตำรวจฯ และบริจาคให้การกุศลมากมาย ไทรงามรู้ดีว่าลุยต้องการสร้างกุศลเพื่อทดแทนความเลวร้ายที่เคยทำมา สร้างความประทับใจให้กับกำนันบุปผาเป็นอย่างมาก แต่ในทางกลับกันก็สร้างความไม่พอใจให้กับอัสนีด้วยเช่นกัน

ความใจบุญทำให้ลุยเป็นที่รักของทุกคนละแวกนั้น เขาได้รับฉายาว่า “เจ้าพ่อจอมบึง นักบุญปืนไว” เพราะครั้งหนึ่งลุยไปช่วยกำนันบุปผาและตำรวจปราบโจรกระเหรี่ยง ที่บุกเข้ายึดโรงพัก แต่เหตุการณ์นี้ทำให้ชีวิตของลุยพลิกผันเพราะอัสนีแอบถ่ายภาพไปลงข่าวหนังสือพิมพ์ ! เพราะเริ่มสงสัยว่าลุยกำลังปิดปังสถานะที่แท้จริงกับใครบางคนอยู่ !

เช้าวันหนึ่งไทรงามจะไปส่งทอมที่โรงเรียนเพราะลุยป่วยเป็นไข้ แต่เมื่อไทรงามสตาร์ทรถเกิดเสียงระเบิดบึ้ม ! ไฟลุกท่วมรถ ! ลุยสะท้านไปทั้งร่างเมื่อเห็นบุคคลที่รักตายไปต่อหน้าต่อตา ลุยไม่โวยวาย เสียงเขาแหบหายมีเพียงน้ำตาเท่านั้นหลั่งออกมา

ประดู่เข้าใจความรู้สึกของลุยดี ครั้งหนึ่งเธอเคยเสียใจอย่างเขามาแล้ว...ประดู่เป็นกำพร้าบ้านถูกโจรปล้น พ่อของเธอถูกยิง แม่และพี่ถูกเรียงคิวข่มขืนก่อนจะถูกไฟครอกตาย เพราะความสูญเสียครั้งนั้นทำให้ประดู่ร้องไห้สุดเสียง...ร้องจนเสียงหมดจนถึงปัจจุบัน

ลุยหนีออกมาจากราชบุรีโดยไม่ร่ำลาบุปผาเลย...

ลุยเลือกแก้แค้นจองล้างจองผลาญ คนแรกที่ลุยบุกเข้าไปจัดการคือ เดือน เพื่อนรักของเขาซึ่งเชี่ยวชาญการใช้ระเบิด ลุยฆ่าเดือนโดยไม่ฟังคำอธิบายและรับบอยไปเลี้ยงเป็นลูก บอยรับรู้เพียงว่าพ่อเดือนตายด้วยน้ำมือของคนที่ฆ่าป้าไทรงามกับทอม

เมื่อหายโศกเศร้าเสียใจแล้ว บอยเล่าเหตุการณ์ที่ทำให้ลุยแทบล้มทั้งยืน...

เด็กชายเล่าว่า เทียว สิบทิศ มาหาเดือนเพื่อบังคับให้ไปจัดการลุย โดยให้ เด็ด (จักรกฤษณ์ คชรัตน์) ลูกน้องคนสนิทซ้อมพ่อทรมานสารพัด แต่เดือนไม่ยอมทรยศลุยเพื่อนรัก ขรรชัย อินทรีย์ (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) ลูกน้องเทียวจึงอาสาทำงานแทน โดยรื้ออุปกรณ์จุดระเบิดไปจากโต๊ะเดือน

สิ่งที่บอยเล่าทำให้หัวใจลุยแทบหยุดเต้น เดือนไม่ได้เป็นเพื่อนเลว...แต่เขาต่างหากที่เลว ! เขาฆ่าเพื่อนรักได้ลงคอ... ลุยแค้นใจสาบานกับตัวเองว่าจะจองล้างจองผลาญคนทั้งสาม รวมทั้งผู้ยิ่งใหญ่ในองค์การทั้งหมดเพื่อเป็นการชดเชยให้ ไทรงาม ทอม และเดือน

ปฏิบัติการจองเวรของลุยเริ่มต้นขึ้น เด็ดถูกลุยส่งวิญญาณไปนรกคนแรก ตามด้วยขรรชัย ลุยเผาทั้งคู่เหมือนกับที่พวกมันทำกับไทรงามและทอม...ส่วน เทียว สิบทิศ ลุยได้ สร้อยคีรี อดีตคนรักเก่าให้ความช่วยเหลือ จึงจัดการกับเทียวได้อย่างง่ายดาย

เหลือคนที่ลุยต้องจัดการอีก 3 คนคือ ทองเพชร เหล็กกล้า, ศักดา ปาฏิหาริย์ และปกาศิต จอมพลัง...

วันหนึ่งลุยบังเอิญเจอกับ ปกาศิต จอมพลัง ที่ห้างสรรพสินค้าขณะพาลูกสาวไปซื้อของเล่น เขามีโอกาสฆ่าปกาศิตแต่ลุยทำไม่ลง เพราะปกาศิตกอดลูกสาวแน่น หนำซ้ำเด็กหญิงยังส่งยิ้มแสนบริสุทธิ์ให้อีกด้วย ลุยจึงปล่อยปกาศิตและไปเริ่มชีวิตใหม่ที่เกาะริมฝั่งภาคตะวันออกตามคำชวนของสร้อยคีรี ซึ่งบัดนี้กลายเป็นเหมือนคู่ชีวิตคนใหม่ของเขาไปแล้ว

อดีตสามีที่เสียชีวิตไปแล้วของสร้อยคีรีเป็นเพื่อนรักกับลุย สร้อยคีรีเป็นที่ปรึกษาพิเศษขององค์การ มีความสามารถในใช้เสน่ห์ของความเป็นผู้หญิงทำงานหลายอย่างจนสัมฤทธิ์ผล สร้อยคีรีชวนลุยไปเป็นหุ้นส่วนโรงแรมบนเกาะแห่งนั้น

ลุยไปพบ ฟางแก้ว (มรกต กิตติสาระ) เจ้าแม่ผู้อิทธิพลแถบตะวันออกเพื่อขอพึ่งบารมี ทันทีที่เห็นหน้าลุย ฟางแก้วถึงกับพึงพอใจในความเป็นนักเลงกล้าหาญ แต่ลุยไม่มีจิตใจคิดถึงความรัก ความเศร้าภายในจิตใจยังคงตอกย้ำทำให้เขาตกอยู่ในห้วงของความเศร้าอยู่ไม่คลาย

ฟางแก้วแสร้งทำเป็นไม่ไว้ใจลุย ยื่นข้อเสนอให้เขายอมมาเป็นมือขวาของเธอเพื่อสร้างอิทธิพลและเป็นศัตรูกับองค์การอย่างถาวร ซึ่งความจริงแล้วเธอต้องการสนิทสนมกับลุยให้มากขึ้นกว่านี้ ซึ่งกลายเป็นประเด็นความโกลาหลในความรักระหว่าง ฟางแก้ว ลุย และ สร้อยคีรี ท่ามกลางอันตรายอันอาจจะเกิดขึ้นได้จากองค์การฯ

หลังจากประลองความเป็นหญิงไปได้พักใหญ่ ระหว่างฟางแก้วกับสร้อยคีรีจึงยอมยุติศึกชิงนายชั่วคราว เมื่อตระหนักว่าทั้งคู่มีศัตรูคนเดียวกันคือองค์การ ทั้งสามคนร่วมมือกันเก็บ ศักดา ปาฏิหาริย์ ขณะมาเที่ยวที่เกาะ เพื่อให้ชีวิตสงบสุขของลุยสามารถดำเนินอยู่ได้ต่อไป !

หลังจากนั้นเป็นต้นมา...ฟางแก้วยอมหลีกทางสร้อยคีรี ลุยกับสร้อยคีรีจึงสามารถดำเนินกิจการโรงแรมได้ราบรื่น โดยมีฟางแก้วเป็นผู้ให้ความคุ้มครอง แต่ยังไม่วายก่อสงครามกุหลาบแย่งชิงลุยมาเป็นคนรักระหว่างกันอยู่เนืองๆ แต่ไม่รุนแรง

สิบปีผ่านไป...เกาะแห่งนั้นเจริญมากขึ้น บ้านพักริมทะเลถูกดัดแปลงเป็นที่พักตากอากาศโก้หรู โรงแรมขนาดใหญ่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด และแน่นอนว่ารีสอร์ทหรูหราที่สุดในย่านนั้น “ไข่มุกตะวันออก” เป็นของลุยและสร้อยคีรี นั่นเอง

ขณะนี้ลุยทำธุรกิจโรงแรมอย่างเต็มตัว ออกเดินทางรอบโลกไปกับกริชอยู่บ่อยๆ โดยยังระวังตัวจากองค์การเพราะไม่อยากมีเรื่องและเบื่อหน่ายการตามล่าชีวิตระหว่างกันเต็มทนแล้ว

ลุยสนับสนุนบอยให้เรียนต่อการโรงแรม ปัจจุบันบอยดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการใหญ่ไข่มุกรีสอร์ท รับผิดชอบบริหารรีสอร์ทแทนลุยได้อย่างเต็มตัว โดยมีผู้ช่วยสาวแสนสวยคือ ประดู่ เพื่อนสาวที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เยาว์วัย โดยบอยไม่รู้เลยว่าด้วยความผูกพันทำให้ประดู่หลงรักบอย อย่างเต็มหัวใจ ทำทุกอย่างเพื่อให้บอยมีความสุขได้

นอกจากบอยจะไม่รู้ว่าประดู่หลงรักแล้ว ยังทำเหมือนเธอเป็นเพื่อนสนิทยิ่งกว่าน้องสาวทักทายและใกล้ชิดแบบถึงเนื้อถึงตัวอยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งที่ทำให้ประดู่ขัดใจมากที่สุด เห็นจะเป็นกรณีที่บอยพยายามจะยัดเยียดเธอให้เป็นแฟนกับ องศา (เขตต์ ฐานทัพ) เพื่อนนายแพทย์หนุ่มอายุเท่ากัน บุคคลิกคร่ำเคร่งเต็มไปด้วยความเชย หากแต่จิตใจเต็มไปด้วยความโอบอ้อมอารี

ทั้งสามคนออกเที่ยวด้วยกันบ่อยครั้ง บอยพยายามสร้างเรื่องจะทำให้ประดู่ชอบองศาให้ได้ แต่เหตุการณ์ทุกครั้งกลับทำให้บอยกับประดู่ต้องใกล้ชิดกันมากขึ้นทุกที ความสัมพันธ์ของทั้งสามคนจึงดูอลเวงอยู่ไม่น้อย

เมื่อลุยออกเดินทางไปโปรโมทโรงแรมรอบโลก เขาสั่งเสียบอยว่าอย่าเพิ่งมีครอบครัว...ถ้าศัตรูอีก 2 คนยังไม่เลิกตามราวี เพราะลุยไม่อยากให้บอยมีชีวิตครอบครัวที่เศร้าเหมือนตัวเอง

แต่ดูเหมือนบอยจะทำในสิ่งที่ลุยเตือนไม่ได้ เขารู้สึกถูกชะตา น็อท (แซมมี่ เคาว์เวล) ลูกค้าสาวสวยของไข่มุกรีสอร์ทที่เดินทางมาพักพร้อมกับ เมธา (พีรวิชญ บุนนาค) คู่หมั้น ในตอนแรกห้องพักของรีสอร์ทเต็มหมด แต่พอบอยได้เจอน็อท เขายินดีให้เธอกับเมธาไปพักที่ห้องชุดส่วนตัว แถมลดราคาให้เป็นพิเศษ ตัวน็อทเองรู้สึกดีกับบอยตั้งแต่แรกเห็น ความสุภาพของบอยยิ่งทำให้หญิงสาวสบายใจที่จะพูดคุยด้วย

วันนั้น...บอยจึงรู้ว่าน็อทถูกพ่อบังคับให้มาเที่ยวกับคู่หมั้น คนที่เธอไม่ได้รักเลยสักนิด !

เมธาเป็นลูกชายของ ศักดา ปาฏิหาริย์ หนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ขององค์การที่ตายไปแล้ว ความเป็นลูกเจ้าพ่อทำให้เมธาเป็นนักเลงชอบวางอำนาจ น็อทเบื่อเต็มทนกับการอยู่กับผู้ชายอย่างเมธา เธอยังไม่ได้มีอะไรกับเขาจึงเกลียดมากเวลาที่เขาแสดงความเป็นเจ้าของเธอออกนอกหน้า

น็อทอยากหนีไปให้ไกลๆ จึงหลอกให้เมธากลับไปกรุงเทพฯ เพื่อไปเอาของให้เธอ ส่วนเธอเองถือโอกาสนี้ไปล่องเรือเล่นกับบอย...

บอยยินดีและเต็มใจอย่างมากที่จะพาน็อทไปเที่ยว เขาพาหญิงสาวไปยังหาดทรายแก้วเกาะส่วนตัวของลุยที่ไม่มีใครรู้จัก มนต์เสน่ห์ของทะเลสวยงามสะกดให้ทั้งคู่รักกัน ทั้งสองกลับไปที่ รีสอร์ทด้วยความสดชื่น แต่ก็ยังแฝงความกังวลใจ...บอยรู้สึกผิดที่ไปแย่งคู่หมั้นเมธา แต่เมื่อหัวใจเรียกร้อง เขาก็ยากจะต้านทาน

เมธาหัวเสียอย่างมากเมื่อกลับมาถึงโรงแรมแล้วไม่เจอคู่หมั้น เขาหึงหวงบอยแทบบ้าแต่เก็บอาการไว้ เมธาสังเกตแววตาของน็อทและบอยที่มองกันบ่อยครั้ง มั่นใจว่าหัวใจของน็อทตอนนี้เป็นของบอยไปแล้ว

เมธาโกรธมากประกาศกลางงานเลี้ยงว่าบอยเป็นคนเลวแย่งคู่หมั้นเขาไปอย่างหน้าไม่อาย เมธาท้าให้บอยสู้กับตนอย่างลูกผู้ชาย บอยจำต้องรับคำท้าเพื่อไม่ให้ใครมองว่าเขาเป็นไอ้ขี้แพ้ อ่อนแอ...วันรุ่งขึ้นบอยใช้ศิลปมวยไทยต่อสู้กับเมธาอย่างดุเดือด แน่นอนว่าพลังแห่งความรักมีอานุภาพมากกว่าพลังแค้น เขาชนะเมธาขาดลอย

เมธาได้รับบาดเจ็บ น็อทจำต้องพาตัวเขากลับกรุงเทพฯ พร้อม ทองเพชร เหล็กกล้า แขกผู้ไม่ได้รับเชิญของโรงแรม ตอนนี้ทองเพชรมีกิจการทัวร์ใหญ่โต เขาสืบจนรู้ว่าสร้อยคีรีคือหุ้นส่วนใหญ่ของรีสอร์ทไข่มุกตะวันออก ทองเพชรแปลกใจมากเมื่อได้เห็นบอย เพราะเขาจำได้ดีว่าบอยคือลูกของเดือนที่ลุยเก็บไปเลี้ยง

ทองเพชรเอาเรื่องไปเล่าให้ปกาศิตฟัง ทั้งสองเชื่อมั่นว่าสร้อยคีรีหักหลังองค์การและเป็นพวกเดียวกับลุย เขาต้องหาทางทำให้ลุยโผล่ออกมาให้ได้ สำหรับเรื่องของน็อท ปกาศิตจัดการให้น็อทเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของเมธา งานแต่งจะจัดขึ้นในปลายเดือน หญิงสาวตกใจอย่างมาก แม้จะทัดทาน อย่างไรก็ไม่ได้ผล

น็อทเสียใจมากหนีกลับไปหาบอยที่เกาะ สร้อยคีรีรู้ว่าน็อทเป็นลูกสาวปกาศิตศัตรูเก่าของลุยจึงเตือนบอย แต่ความเกลียดชังของคนในรุ่นพ่อไม่ได้ทำให้สองหนุ่มสาวหวั่นไหว ความรักทำให้ทั้งคู่เปิดเผยกายและใจกันอย่างลึกซึ้ง โดยประดู่รับรู้เหตุการณ์ทั้งหมดทุกอย่าง แต่เธอจำต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเพื่อ บอย คนที่เธอรัก

ปกาศิตโกรธมากเมื่อรู้ว่าลูกสาวของตนรักกับลูกของศัตรู เขากับทองเพชรส่งคนไปเก็บเจ้าแม่ฟางแก้วและสร้อยคีรีก่อนที่ลุยจะกลับมา ความแค้นของลุยกลับมาคุกรุ่นอีกครั้งเมื่อพบว่าสร้อยคีรีและฟางแก้วถูกฆ่าตายอย่างทารุณ หลักฐานมีดที่ทิ้งไว้ทำให้เขารู้ทันทีว่าคนที่ลงมือคือใคร

ลุยนำมันกลับไปคืนให้ ทองเพชร เหล็กกล้า ด้วยตัวของเอง ลุยปลิดชีวิตของทองเพชรโดยไม่ยาก เขาโทรศัพท์ไปหาปกาศิต...ประกาศว่าเขากลับมาแล้ว และกำลังจะทวงหนี้ชีวิตด้วยชีวิต

ปกาศิตเริ่มหวาดวิตก...เพราะเหลือเพียงตัวคนเดียว ตัวการใหญ่ขององค์การเหลือเพียงเขาเท่านั้นที่ยังรอดชีวิต ปกาศิตวางแผนร้ายขอร้องให้น็อทพาบอยมาพบ โดยอ้างว่าเขากับลุยมีเรื่องเข้าใจผิดกันหลายอย่าง บอยเป็นคนเดียวที่จะช่วยให้ลุยกับเขาเข้าใจกันได้

ลุยวางแผนจัดการทุกอย่างในชีวิต แบ่งมรดกให้บอยและประดู่ กริช ลมกรดรับรู้เหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นจึงกลับมาจากฮ่องกงเพื่อช่วยจัดการปัญหาทุกอย่าง แต่แล้วขณะที่ลุยสารภาพกับกริชว่าตัวเองเป็นคนฆ่าเดือนตายด้วยความเข้าใจผิด บอยบังเอิญมาได้ยินเข้า !

บอยเสียใจและแค้นใจมากเมื่อทราบว่าคนที่ตนเองเคารพรักกลายเป็นคนที่ฆ่าพ่อ จิตใจของบอยยามนี้มีทั้งความรักและความแค้น...

บอยตัดสินใจเด็ดขาดจะฆ่าลุยเพื่อแก้แค้นแทนพ่อ เขาบุกเข้าไปหาลุยด่าว่าสารพัด กริชเข้ามาห้ามและชี้แจงให้ฟังว่าลุยฆ่าเดือนเพราะความเข้าใจผิด แต่บอยก็ไม่ฟังเสียง เขาเล็งปืนไปยังลุยที่นั่งสงบนิ่ง ยินดีให้บอยยิงเขาให้ตาย
บอยตัดสินใจลั่นไกปืน !
แชะ !!

ปืนนั้นไม่มีกระสุน บอยคลานเข้าไปก้มลงกราบแทบเท้าลุย...บอกว่าคนที่เขาเหนี่ยวไกปืนยิงไปเมื่อครู่นี้คือคนที่ฆ่าพ่อ เขาได้ล้างแค้นให้พ่อแล้ว ส่วนคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าขณะนี้คือคนที่มีพระคุณยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต

รุ่งเช้า...เมื่อ ลุย บอย กริช เดินออกมาจากบ้านกลับถูกพวกของ ปกาศิต จอมพลัง และกลุ่มสมุนซึ่งมาซุ่มอยู่ระดมยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส บอยรับอาสาฝ่ากระสุนปืนออกจากพวกเหล่าร้ายเพื่อไปเพื่อแจ้งตำรวจ แต่ก็ไปไม่รอด...บอยถูกเมธาซัดด้วยปืนสลบเหมือด

ลุยถูกยิงอย่างไม่มีทางสู้ จึงใช้อุบายล่อให้พวกเหล่าร้ายบุกเข้ามาในบ้าน รอบบ้านของลุยเต็มไปด้วยระเบิดชนิดร้ายแรงสามารถถล่มพวกเหล่าร้ายทั้งหมดภายในพริบตาเดียว

ลุยกับกริชกระโดดหลบลงมาจากบ้าน แต่กริชโชคร้ายถูกกระสุนของปกาศิตคว่ำไป ลุยบ้าเลือดปักหลักยิงโต้ตอบอย่างบ้าคลั่ง... แต่ลุยพลาดถูกปกาศิตและเหล่าร้ายรุมยิงพรุนไปทั้งตัว ร่างของลุยลอยหมุนคว้างลงไปฟุบใกล้ๆ กับบอยซึ่งนอนสลบอยู่ ปกาศิต จอมพลัง กับสมุนโจรนับร้อยต่างโห่ร้องด้วยความยินดีที่พิชิตลุยลงได้

ด้วยลมหายใจเฮือกสุดท้าย...ลุยตะกายร่างคว้าปืนที่ตกอยู่ข้างๆ บอย เล็งยิงไปที่สวิชต์ลับซึ่งเป็นที่รวมของชนวนระเบิดที่ตนเองฝังไว้...

ด้วยวิญญาณของนักสู้ก่อนจะสิ้นลม...ลุยยิงเข้าไปที่กลางสวิชต์ระเบิด บ้านระเบิดแหลกลาญไปพร้อมกับชีวิตชั่วร้ายของ ปกาศิต จอมพลัง

การจบชีวิตลงของลุยและปกาศิตทำให้องค์การลับต้องล่มสลายลงไป

บอยกับน็อทหลังจากคลายจากความเศร้าโศกเสียใจแล้วจึงตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน

ประดู่กับหมอองศาพบรักและยอมรับหัวใจซึ่งกันและกัน หลังจากผ่านเหตุการณ์อันตรายและความเศร้าโศกมาด้วยกัน

พวกเขาทั้งสี่คนตั้งใจจะใช้อดีตอันเลวร้ายของผู้มีพระคุณ เป็นเรื่องสอนใจให้กับตัวเองในการดำรงชีวิตอยู่ต่อไป

ความเลวร้ายและเวรกรรมมีอยู่จริงบนโลก...
ไม่ช้าก็เร็วมันจะตามมาสนองตอบต่อผู้กระทำ
ความดีงามต่างหาก...ที่จะยืนยงคงอยู่ตลอดไป

 ........................................ อวสาน ........................................

ที่มา http://www.ch7.com/


เรตติ้งลุย

วันพุธที่        20 เมษายน 2554    เรตติ้ง  14.7
วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน 2554 เรตติ้ง 15.4

วันพุธที่        27 เมษายน 2554     เรตติ้ง 14.6
วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2554  เรตติ้ง 13.7

วันพุธที่        4 พฤษภาคม 2554   เบรค 1 เรตติ้ง 14.4
                                                      เบรค 2 เรตติ้ง 13.9
วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม 2554 เรตติ้ง  16.6